เมื่อก่อนหากอยากซื้อสินค้าหลายอย่างให้ครบ จบในที่เดียว สถานที่ทุกคนคิดออกและจะต้องไปก็คือ ตลาดนัดไม่ก็ห้างสรรพสินค้า แต่ปัจจุบันในยุคที่สินค้าและบริการเกือบทุกอย่างอยู่บนโลกออนไลน์
โดยสามารถสั่งซื้อได้ง่ายผ่านสมาร์ทโฟน จะสั่งซื้อที่ไหนหรือเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องออกไปข้างนอก ไปเจอกับรถติดบ้าง เจอสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจบ้าง ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่หันมาซื้อสินค้าออนไลน์กันมากยิ่งขึ้น ซึ่งตลาดบนโลกออนไลน์ ณ ปัจจุบันเติบโตขึ้นอย่างมหาศาล บทความนี้ที่ Boxme จะมาพูดถึงก็คือ Marketplace ว่าคืออะไรและมีจุดเด่นกับข้อจำกัดอะไรบ้างที่น่าสนใจ (อ่านเพิ่มเติม > ส่องตลาด E-Commerce โตขึ้น ส่งผลต่อธุรกิจใดอย่างไรบ้าง?)
E-Marketplace คืออะไร?
Marketplace คือ ตลาดที่ผู้ซื้อกับผู้ขายมาพบกัน เพื่อซื้อขายสินค้าและบริการ อยากซื้ออะไร อยากขายอะไร แวะไปที่เดียว เพราะที่ Marketplace มีทั้งบริษัท ร้านค้า ซึ่งเป็นตลาดนัดออนไลน์ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสการเจอลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้การซื้อขายสะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ซึ่ง Marketplace บนโลกออนไลน์นั้น เรียกอีกอย่างหนึ่งได้ว่า E-Marketplace โดยความแตกต่างของตลาดทั้ง 2 รูปแบบนั้น อยู่ที่เวลาเปิด – ปิด ซึ่งแตกต่างกับรูปแบบของตลาดออนไลน์ที่สามารถเปิดได้ 24 ชั่วโมง และซื้อขายได้ทุกเวลา เนื่องจากข้อมูลสินค้า การโอนเงิน จ่ายเงินต่างๆ สามารถดูและเลือกซื้อสินค้าได้ ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตทั้งหมด อีกทั้ง Marketplace เองก็มีบริการอำนวยความสะดวกในการติดต่อซื้อขาย อย่างเป็นระบบอีกด้วย
ข้อดีของ E-Marketplace
1. สะดวกทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย เพราะมีแค่สมาร์ทโฟนกับอินเทอร์เน็ตก็สามารถสั่งซื้อและขายผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่ต้องใช้เวลามากมายในการเดินทางออกไปหน้าร้านเอง
2. ไม่ต้องกังวลเรื่องสถานที่ เนื่องจากทุกอย่างอยู่ในระบบออนไลน์ทั้งหมดทำให้ไม่ต้องกลัวเรื่องฟ้าฝน หรือการไปจองที่เพื่อค้าขายในแต่ละตลาด หรือพื้นที่ที่จำกัดในบางห้างหรือบางตลาดอีกด้วย ซึ่งอาจจะรองรับสินค้าของคุณได้ไม่เพียงพอ
3. ไม่มีข้อจำกัดด้านเวลา เนื่องจากสามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่จำเป็นต้องมีเวลาเปิด-ปิดร้านเหมือนร้านทั่วไปที่มีหน้าร้าน
ข้อเสียของ E-Marketplace
1. กรณี Marketplace วางระบบการรับโอนเงินให้แก่ร้านค้าไม่ดี จะเปิดโอกาสให้มีการโกงกันได้ เช่น ลูกค้าจ่ายเงินแล้วไม่ได้รับของเป็นต้น
2. เนื่องจาก Marketplace เป็นตลาดขนาดใหญ่ จึงมีคู่แข่งทางการค้าที่ขายสินค้าประเภทเดียวกันมาก ผู้ขายจึงต้องมีกลยุทธ์ในการทำให้ร้านค้าปรากฏให้ลูกค้าเห็นก่อนร้านค้าอื่นในลักษณะเดียวกัน ซึ่งอาจต้องมีรายจ่ายเพื่อซื้อตำแหน่งร้านหรือซื้อโฆษณาของ Marketplace นั้นๆ เพิ่มขึ้นอีก
E-Marketplace เบอร์ต้นๆ ในประเทศไทย
1. Shopee เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นการใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือมากกว่า สิ่งที่โดดเด่นของ Shopee คือ มีระบบ LiveChat ที่ทำให้ผู้ซื้อสามารถแชทติดต่อกับผู้ขายได้โดยตรง และมีการแจกโค้ดส่วนลดหรือจัดแคมเปญแจก Coin ที่ใช้เป็นส่วนลดอยู่เป็นประจำ
2. Lazada เน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งปัจจุบัน Lazada เติบโตสูง และมีผู้ค้าขายออนไลน์มากกว่า 100,000 ร้าน
3. JD Central เป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซที่เติบโตเร็วที่สุดในจีน จุดเด่นของ JD Central คือมีการันตีแบรนด์สินค้าว่าเป็นของแท้ 100% (อ่านเพิ่มเติม > 5 วิธีมัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด ฉบับผู้ประกอบการ E-Commerce)
อย่างไรก็ตาม ด้วยแนวโน้มของยุคสมัยที่อินเตอร์เน็ตกำลังเข้ามามีอิทธิพลกับชีวิตของมนุษย์ทุกคน ทำให้การซื้อขายบน Marketplace ยังคงเติบโตและมีแต่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
นอกจากการเปิดร้านค้าหรือธุรกิจบน Marketplace การทำการตลาดออนไลน์ในทุกช่องทางทั้ง เว็บไซต์ และ Social Media แบบครบวงจรก็ยังมีความสำคัญสามารถช่วยให้ธุรกิจของคุณได้เข้าถึงลูกค้าและเติบโตได้มากยิ่งขึ้นไปอีก
สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านไหนที่กำลังมองหาตัวช่วยจัดการ ธุรกิจ E-commerce หรือร้านค้าออนไลน์ของท่าน คลังสินค้า Boxme Thailand ให้บริการทั้งการจัดเก็บสินค้า พร้อมแพ็คและจัดส่ง ให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณง่ายในการจัดการมากขึ้น และกรณีที่ท่านจัดการเองไม่ไหว ไม่มีเวลามากพอในการทำ และต้องการระบบในการช่วยจัดการปัญหาต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งทางเรามีระบบที่ช่วยบริหารร้านค้าออนไลน์ รวมทั้งระบบจัดการช่องทางการขายช่วยซัพพอร์ต สามารถปรึกษาทางเราได้จากช่องทางการติดต่อข้างล่างได้เลยครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก > Mdsiglobal
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : live commerce
สนใจระบบเชื่อมต่อคำสั่งซื้อจากทุกช่องทางในหน้าเดียว
ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง เพื่อขอรับรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 02-026-3165 หรือ > ขอรับใบเสนอราคา < กดที่นี่