SHIPJUNG พาส่อง 4 เว็บขายของจีนยักษ์ใหญ่!

ในปัจจุบัน การซื้อของจากประเทศจีนเพื่อมาขายในประเทศไทยนั้น ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีของให้เลือกหลากหลาย ไม่ต้องออกไปเดินหาซื้อของมาขาย เพียงแค่เปิดเว็บแล้วจิ้มๆเลือกเอาเลย และที่สำคัญคือ ราคาถูกมาก! (อ่านเพิ่มเติม > ลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นในธุรกิจด้วยระบบ WMS) โดยจะมีอยู่ 4 เว็บด้วยกันที่เป็นที่นิยม ไม่ใช่เพียงแค่ในประเทศไทย แต่ยังรวมถึงในแถบเอเชียอีกด้วย ซึ่ง 4 เว็บที่ว่านี้ก็ล้วนแต่เป็นเว็บยักษ์ใหญ่และมีความเชื่อมโยงกัน แต่ละเว็บมีที่มาที่ไปยังไง SHIPJUNG รวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว

Alibaba

เว็บขายของจีน Alibaba.com

ทุกวันนี้คงไม่มีใครไม่เคยได้ยินชื่อ Alibaba เพราะเป็นบริษัท E-commerce ที่ใหญ่ที่สุดในแผ่นดินจีน แต่กว่าจะขึ้นแท่นบริษัทยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งในประเทศจีนนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย แจ๊ก หม่า เจ้าของ Alibaba ได้ก่อตั้งบริษัทในปี 1995 โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนา Website Portal ที่จะทำให้คนจีนมีประตูสู่โลกกว้าง โดยเขาสามารถทำเงินได้ถึง 5 ล้านหยวนในครั้งแรก แต่เขาก็ไม่หยุดที่จะสร้างความสำเร็จ และเริ่มต้นอีกครั้งในปี 1999 ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของ Alibaba.com โดยยึดหลักว่า เราไม่ได้ทำเว็บสำหรับคนจีน แต่ทำเว็บสำหรับคนทั้งโลก และสิ่งที่เขาสนใจสิ่งแรกคือลูกค้า สิ่งที่สองคือพนักงาน สิ่งที่สามถึงจะเป็นนักลงทุน และในปัจจุบัน Alibaba มีพนักงานกว่า 40,000 คน ก้าวขึ้นเป็นบริษัท e-commerce ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีเครือข่ายเว็บขายของมากมาย

Taobao

Taobao หรือที่เรียกกันว่า เถาเป่า เป็นเว็บยอดนิยมสำหรับร้านค้าที่ขายของออนไลน์ แบบ Pre-Order เพราะเถาเป่าเป็นเว็บไซต์ขายปลีกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน อยู่ในเครือของ Alibaba Group โดยเป็นเว็บที่รวบรวมแหล่งช็อปปิ้งต่างๆของจีนมารวมกันในเว็บเดียว ลักษณะคล้ายกับ eBay และ Amazon แต่ความแตกต่างคือ Taobao จะเน้นการขายสินค้าแบบ Customer to customer (C2C) ที่เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและผู้ประกอบการที่จะเปิดร้านค้าออนไลน์ โดยมีฐานลูกค้าจากจีน ฮ่องกง ไต้หวัน และประเทศใกล้เคียง ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย และมีจุดเด่นคือเป็นร้านค้าออนไลน์ขายปลีก ที่ไม่มีขั้นต่ำในการสั่งซื้อ และราคาที่ถูกกว่าบ้านเราถึง 30-50% ส่วนเรื่องของคุณภาพของสินค้านั้น ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านเลย

Tmall.com

ทีมอลล์ เป็นเว็บขายสินค้าออนไลน์ที่อยู่ในเครือ Alibaba Group เช่นเดียวกับ Taobao และใช้หน้าเว็บหลักร่วมกัน แต่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน คือ ร้านขายของใน Taobao จะเป็นร้านขายของแบบทั่วไป ส่วนร้านขายของใน Tmall จะเป็นร้านค้าที่มีการจดทะเบียนแล้วเท่านั้น และ Tmall จะดำเนินธุรกิจในรูปแบบ Business to customer เท่านั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า Tmall เป็นเว็บขายของที่ได้รับความสนใจจากเหล่าร้านค้า Pre-order ไม่น้อย เพราะเน้นผู้บริโภคที่ต้องการกลุ่มสินค้าที่เป็นลิขสิทธิ์ สินค้ามีคุณภาพดี และมีความน่าเชื่อถือค่อนข้างสูงเลยทีเดียว

1688

มาถึงเว็บสุดท้ายที่ไม่ใช้หมายเลข Call center แต่อย่างใด แต่ 1688.com เป็นเว็บขายของลักษณะคล้ายกับเว็บข้างต้น แต่มีความแตกต่างอย่างชัดเจนคือ รวบรวมทั้งผู้ประกอบการรายเล็กและรายใหญ่ จึงมีความหลากหลายมากกว่าเว็บอื่น และลูกค้าสามารถสร้างแบรนด์สินค้าได้อีกด้วย เพราะ 1688.com มีบริการออกแบบตราสินค้าหรือโลโก้ รวมไปถึงบรรจุภัณฑ์หีบห่อต่างๆ จากร้านค้าที่มีศักยภาพในการทำการออกแบบแบรนด์ได้ตรงตามต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ส่วนเรื่องของราคานั้น ขึ้นอยู่กับปริมาณการสั่งซื้อ เรียกได้ว่า ยิ่งซื้อเยอะก็ยิ่งถูก ดังนั้นจึงเหมาะกับลูกค้าที่ต้องการสั่งในปริมาณมาก

SHIPJUNG หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ร้านค้าออนไลน์ หรือคนที่กำลังสนใจการขายของแบบ Pre-Order ตัดสินใจการเลือกซื้อของจากเว็บไซต์ต่างๆของจีนได้ง่ายและตรงความต้องการมากยิ่งขึ้น และหากออเดอร์พุ่งปรี๊ด ก็อย่าลืมให้ SHIPJUNG ช่วยดูแลการจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าของคุณ เพราะ เรา คือระบบเดียวที่ครบทุกเรื่องขนส่ง (อ่านเพิ่มเติม > เทคนิคขายของออนไลน์ ยอดขายวันละล้าน!?)

สนใจใช้บริการเรียกบริษัทขนส่งให้เข้ารับที่บ้าน

เลือกได้หลายขนส่ง ด้วยค่าส่งพิเศษ

ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง เพื่อขอรับรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 02-026-3165 หรือ > เปรียบเทียบราคาขนส่ง < กดที่นี่

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *