ปัจจุบันมีผู้ให้บริการคลังสินค้าที่มากยิ่งขึ้น ยิ่งบวกกับสถานการณ์โควิดเข้ามาแล้วยิ่งทำให้การทำธุรกิจนั้นยากขึ้น ส่วนออนไลน์ก็เข้ามามีบทบาทในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น ทำให้ธุรกิจที่เป็นรูปแบบออนไลน์ส่วนใหญ่ก็เติบโตแบบก้าวกระโดด และหลายคนก็อาจสงสัยว่าระหว่าง Fulfillment vs Warehouse เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร วันนี้ Boxme จะมาเล่าให้ฟังว่าแท้จริงแล้วคลังแบบไหนดีกว่ากันหรือแบบไหนมีข้อจำกัดบ้าง เพราะผู้ให้บริการแต่ละเจ้ามีจุดเด่นของธุรกิจที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงจะได้รู้ว่าธุรกิจของตนเองเหมาะกับคลังประเภทไหนบ้าง (อ่านเพิ่มเติม > รู้จัก Fulfillment คลังสินค้าออนไลน์ที่ทำให้การขายง่ายขึ้น!)

Warehouse หรือ คลังสินค้า คืออะไร

Fulfillment vs Warehouse เข้ามาแทนที่ ยังจำเป็นอยู่ไหม ในยุคที่

       อาคารทางพาณิชย์ที่ใช้สำหรับเก็บสินค้าเพื่อรอการขนส่ง คลังสินค้าถูกใช้โดยผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก ฯลฯ คลังสินค้ามักจะเป็นอาคารหลังใหญ่และกว้าง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมในตัวเมืองหรือนอกตัวเมืองก็แล้วแต่เจ้าของคลังนั้นๆ ภายในอาคารจะมีทางลาดเอียงไว้สำหรับขนถ่ายสินค้าขึ้นหรือลงรถ หรือบางครั้งคลังสินค้าใช้รับถ่ายสินค้ามาจากสถานีรถไฟ สนามบิน หรือท่าเรือโดยตรง และมักจะมีเครนหรือรถฟอร์กลิฟต์เพื่อเคลื่อนย้ายสินค้าที่วางอยู่บนแท่นวางสินค้า(pallet) ขนาดตามมาตรฐาน ISO

       สินค้าที่เก็บอาจเป็นชนิดใดก็ได้เช่น วัตถุดิบ วัสดุบรรจุภัณฑ์ ชิ้นส่วนอะไหล่ ส่วนประกอบต่างๆ หรือสินค้าสำเร็จรูปเกี่ยวกับอุตสาหกรรม  เกษตรกรรม หรือพาณิชยกรรม มีระบบการบริหารจัดการสินค้าคงคลังเพื่อระบุตัวสินค้า เพื่อจำแนกหมวดหมู่ แยก SKU และเพื่อให้ทราบว่ามีสินค้าเท่าใด รับเข้าและส่งออกปริมาณเท่าใดในแต่ละช่วงเวลา

       Warehouse เป็นทั้ง Inbound และ Outbound ของวัตถุดิบและสินค้า ด้วยเหตุผลที่สินค้าคงคลังมีหลายประเภท Input ของ คลังสินค้าจึงแตกต่างกันไป อาจมีจุดเริ่มต้นจากซัพพลายเออร์นำวัตถุดิบมาป้อนให้คลังสินค้า หรือฝ่ายพัสดุนำ MRO หรือ ชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ในการบำรุงรักษาและสนับสนุนการผลิต มามอบให้ฝ่ายผลิต ผู้ผลิตสินค้านำสินค้าสำเร็จ ส่งเข้า Warehouse และกระจายไปยัง ผู้บริโภค ฯลฯ วงจรดังกล่าวเป็นลักษณะทั่วไปของสินค้าคงคลัง

Fulfillment หรือ คลังสินค้าออนไลน์ คืออะไร

Fulfillment vs Warehouse เข้ามาแทนที่ ยังจำเป็นอยู่ไหม ในยุคที่

       คือ คลังสินค้าที่ผู้ทำธุรกิจ ผู้ที่ไม่มีทุนในการทำคลังเอง หรือผู้ที่อยากขยายที่จัดเก็บสินค้าเนื่องจากพื้นที่เดิมจุได้ไม่เพียงพอ เป็นบริการที่อำนวยความสะดวกได้อย่างดี ก็สามารถนำสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของตนเอง มาฝากให้กับทางบริษัท เพื่อให้ทางบริษัทจัดการดำเนินการในรูปแบบที่ต้องการ ไว้สำหรับบริษัทไหนหรือใครที่ทำธุรกิจผ่านระบบออนไลน์

       ซึ่งในยุคนี้จำเป็นต้องรู้จักเพื่อให้มีหลายตัวเลือกในการจัดเก็บสินค้ารวมทั้งมีบริการเสริมอีกมากมาย เช่น ช่วยแพ็คสินค้า หรือ สามารถเชื่อมต่อระบบการขายหลักได้ในแพลตฟอร์มออนไลน์ของทางลูกค้าได้ เป็นต้น (อ่านเพิ่มเติม > รู้จักประเภทคลังสินค้าพร้อมเลือกให้เหมาะกับร้านค้าออนไลน์)

บริการ Fulfillment ประกอบไปด้วย 4 อย่างหลักๆ คือ

1. บริการรับแพ็คสินค้า เป็นอีกหนึ่งบริการที่มีให้ตอบโจทย์สำหรับลูกค้าที่เจอปัญหา แพ็คเองไม่ไหว ไม่มีเวลาแพ็ค หรือต้องการแพ็คสินค้าจำนวนมากในเวลาที่จำกัดเพื่อส่งออเดอร์ให้ทัน

2. บริการรับฝากสินค้า สำหรับลูกค้าที่เจอปัญหาที่เก็บไม่เพียงพอหรืออยากขยายที่จัดเก็บสินค้าและผลิตภัณฑ์ เป็นหนึ่งในบริการที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ขายของออนไลน์เป็นอย่างยิ่ง

3. บริการจัดส่งสินค้า เพื่อให้สะดวกต่อการส่งออเดอร์ให้ทันตามเวลาในแต่ละรอบบิล ทางเราจึงมีบริการจัดส่งสินค้าเพื่อมาแก้ปัญหาสำหรับลูกค้าที่ไม่มีเวลาไปส่งสินค้าด้วยตัวเอง

4. สามารถเชื่อมต่อระบบการขายหลักได้ โดยการซิงก์คำสั่งซื้อจากช่องทางขายทั้งหมดเข้ากับระบบ Fulfillment ครบวงจรได้แบบเรียลไทม์ ทั้ง Shopee, Lazada, Shopify, Facebook รวมถึงเว็บไซต์ตัวเอง และอื่นๆ

Fulfillment vs Warehouse อะไรที่เหมือนกัน และอะไรที่ต่างกัน

ความเหมือนระหว่าง Warehouse กับ Fulfillment คือ

  • Warehouse กับ Fulfillment มีโกดังจัดเก็บขนาดใหญ่เหมือนกัน
  • Warehouse กับ Fulfillment สามารถจำแนกหมวดหมู่สินค้าได้เหมือนกัน

ความแตกต่างระหว่าง Warehouse กับ Fulfillment คือ

  • Fulfillment มีหลากหลายบริการที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการมากกว่า Warehouse ไม่ว่าจะเป็น บริการรับแพ็คสินค้าให้ สามารถเชื่อมต่อระบบการขายหลักซึ่งเป็นรูปแบบอนไลน์ได้ในแพลตฟอร์ม Shopee, Lazada, Shopify, Facebook รวมถึงเว็บไซต์ตัวเอง และอื่นๆ เป็นต้น

       จะเห็นได้ว่า ทั้ง 2 อย่างที่กล่าวมานี้ก็ล้วนแต่มีข้อดีของตัวเองทั้งสิ้น ซึ่งก็แล้วแต่ลักษณะของสินค้าของคุณว่าอยากใช้บริการคลังแบบไหน ซึ่ง Fulfillment ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยในยุคที่ออนไลน์กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด และตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นที่สต็อกสินค้าหรือไม่มีเวลาว่างแพคและส่งของ เพราะทางผู้ให้บริการจะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าลูกค้าที่อยู่ปลายทาง จะได้รับสินค้าที่มีสภาพดี 

       ใครหรือผู้ประกอบการท่านไหนที่กำลังเริ่มผลิตสินค้าหรือเริ่มต้นทำธุรกิจ แนะนำให้ตัดสินใจหันมาใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์ เพื่อหมดปัญหาการส่งสินค้าผิด การแพ็คเองแล้วกล่องพัสดุเสียหาย ลดภาระในการจัดการสินค้าทั้งหมดของคุณ และความผิดพลาดอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะเมื่อหมดปัญหาการจัดการสินค้า คุณก็จะมีเวลาไปทำอย่างอื่นอีกมากมาย ถ้าสนใจบริการคลังสินค้าออนไลน์สามารถปรึกษาทางเราได้จากช่องทางการติดต่อข้างล่างได้เลยครับ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก > wikipedia

ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง เพื่อขอรับรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 02-026-3165 หรือ > ขอรับใบเสนอราคา < กดที่นี่

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *