ส่งของแบบลงทะเบียน VS ส่งของ EMS แบบไหนดีกว่ากัน?

Share on:

Share on facebook
Share on linkedin
Share on twitter
Share on telegram
EMS VS ลงทะเบียน

ส่งของ EMS VS ส่งแบบลงทะเบียน

หากพูดถึงบริษัทขนส่งในประเทศไทยแล้ว ก็ต้องนึกถึง ไปรษณีย์ไทย ที่อยู่คู่กับคนไทยมาเป็นเวลานาน โดยไปรษณีย์ไทยให้บริการหลากหลายรูปแบบ เช่น ส่งแบบพัสดุ ส่งแบบลงทะเบียน ส่งแบบด่วน และส่งระหว่างประเทศ เป็นต้น โดยการบริการที่ได้รับความนิยมคือ ส่งแบบลงทะเบียน และส่งด่วน ซึ่งร้านค้าออนไลน์รวมถึงธุรกิจ E-commerce ทั้งรายย่อยและรายใหญ่นิยมใช้กัน แล้วระหว่างการส่งแบบลงทะเบียนกับส่งด่วน มีข้อแตกต่างและข้อดีข้อเสียยังไง วันนี้ Shipjung รวบรวมมาให้แล้ว

การจัดส่งแบบธรรมดา (Parcel Post)

เป็นรูปแบบการจัดส่งพัสดุที่ได้รับความนิยมค่อนข้างน้อยในปัจจุบัน เพราะไม่สะดวกเท่าการส่งรูปแบบอื่นๆ การส่งแบบธรรมดา ใช้เวลาในการจัดส่ง 5 วันโดยประมาณในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลด้วยกัน และ7วันโดยประมาณในพื้นที่ต่างจังหวัด นอกจากนี้ การส่งแบบธรรมดา ยังไม่สามารถตรวจสอบสถานะการจัดส่งได้ แต่สามารถตรวจสอบกับที่ทำการไปรษณีย์ได้ การจัดส่งแบบธรรมดา สามารถรับน้ำหนักได้ถึง 20 กิโลกรัม วงเงินประกันความเสียหายของพัสดุสูงสุด 1,000 บาทและสามารถซื้อประกันพัสดุเพิ่มได้ ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการส่งของที่มีขนาดค่อนข้างหนัก และไม่เร่งรีบในการจัดส่ง

การส่งแบบลงทะเบียน (Registered หรือ REG)

ในแวดวงร้านค้าออนไลน์ มักย่อว่า ลทบ. ตัวอักษรหน้าเลขสถานะจะขึ้นต้นด้วยตัว R เช่น RG, RB เป็นต้น การจัดส่งแบบลงทะเบียนจะมีราคาถูก เนื่องจากเป็นการส่งพัสดุแบบธรรมดา ส่วนระยะเวลาการจัดส่งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลด้วยกัน จะอยู่ที่ประมาณ 1-3 วัน และต่างจังหวัดประมาณ 3-5 วันโดยประมาณ การจัดส่งแบบลงทะเบียน มีวงเงินรับประกัน สำหรับพัสดุมูลค่าไม่เกิน 300 บาท ไม่ว่าพัสดุจะมีมูลค่ามากกว่า 300 บาท แต่วงเกินประกันก็สูงสุดที่ 300 บาทเท่านั้น และมีเงื่อนไขสำคัญคือ พัสดุจะต้องหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัม สำกรับการติดตามพัสดุนั้น จะติดตามได้แค่เมื่อ รับพัสดุเข้าระบบ พัสดุถึงไปรษณีย์ปลายทาง และผู้รับได้ของแล้วเท่านั้น ดังนั้นการจัดส่งแบบลงทะเบียนจึงเหมาะกับ พัสดุที่มีน้ำหนักค่อนข้างเบา มีมูลค่าไม่สูง และผู้รับไม่เร่งรีบในการรับพัสดุ

ส่งของ EMS (บริการส่งด่วน)

บริการส่งของ SMS ย่อมาจาก Express Mail Service คือการจัดส่งแบบเร่งด่วน ตัวอักษรหน้าเลขสถานะจะขึ้นต้นด้วยตัว E เช่น EA, EK จะมีราคาสูงกว่าแบบลงทะเบียน เนื่องจากใช้เวลาในการจัดส่งน้อยกว่า โดยประมาณอยู่ที่ 1-2 วันในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลด้วยกัน และ 2-3 วันในพื้นที่ต่างจังหวัด มีวงเงินประกันพัสดุเสียหายสูงสุดที่ 2,000 บาท สามารถซื้อประกันพัสดุเพิ่มได้ และสามารถติดตามสถานะพัสดุได้ในทุกๆขั้นตอน ซึ่งจะมีความละเอียดมากกว่าแบบลงทะเบียน และสามารถส่งพัสดุที่มีน้ำหนักมากกว่าแบบลงทะเบียนถึง 10 เท่า (20 กิโลกรัม) การจัดส่งของ EMS เหมาะกับพัสดุที่มีมูลค่าค่อนข้างสูง มีน้ำหนักมากกว่า 2 กิโลกรัม และผู้รับต้องการรับพัสดุเร็วที่สุด

อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมและความต้องการของผู้รับปลายทาง และสำหรับใครที่ต้องการส่งของ EMS สามารถใช้บริการผ่าน Shipjung ได้เลย มาพร้อมกับ บริการ SMS Tracking แจ้งเตือนสำหรับลูกค้าปลายทาง และ บริการ drop-off พร้อมปรับราคาใหม่ ประหยัดมากยิ่งขึ้น โดยคุณสามารถทราบราคาก่อนจัดส่งและชำระค่าส่งของผ่านบัตรเครดิตได้อีกด้วย 

สนใจใช้บริการหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง เพื่อขอรับรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 02-026-3165 หรือ > เปรียบเทียบราคาขนส่ง < กดที่นี่

Don't forget to share this post!

Share on:

Share on facebook
Facebook
Share on linkedin
LinkedIn
Share on twitter
Twitter
Share on telegram
Telegram

Share on:

Share on facebook
Share on linkedin
Share on twitter
Share on telegram

บทความอื่นๆ

Expand your Business to Southeast Asia​