หากคุณเป็นผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์ และกำลังประสบปัญหาการแพ็คสินค้าผิดไซส์ ผิดแบบ เนื่องจากมีการสต๊อกสินค้าหลายแบบที่คล้ายคลึงกัน ไปทำความรู้จักกับ “SKU” ที่จะช่วยให้ร้านค้าของคุณจัดการสต๊อกได้ง่ายขึ้น สามารถรองรับการจัดการสินค้าที่มีมากกว่า 1 รูปแบบ หรือมีลักษณะที่คล้ายกันไม่ให้เกิดความสับสนและเกิดการแพ็คผิดพลาดได้ (อ่านเพิ่มเติม > เปิด 5 สัญญาณ บอกว่าร้านควรมีระบบจัดการออเดอร์)
SKU คืออะไร
SKU (Stock Keeping Unit) คือ หน่วยวัดประเภทสินค้าที่เล็กที่สุดในระบบคลังสินค้า ซึ่งช่วยแยกความแตกต่างของสินค้าประเภทเดียวกันที่มีความแตกต่างกัน เช่น สี ขนาด ลวดลาย เช่น ปากกา ที่มีสี 4 สี SKU จะเป็นตัวที่ใช้แยกประเภทของปากกาแต่ละสี เพื่อให้เราทราบถึงสินค้าในสต๊อกสินค้าของเราได้ชัดเจนที่สุด ซึ่งแตกต่างกับรหัสสินค้า ที่สามารถกำหนดได้เพียงรหัสเดียวต่อสินค้า 1 รายการ แต่หากสินค้านั้นเป็นประเภทเดียวกันและมีการแยกย่อยลงไปอีกอาจจะทำให้ไม่ทราบว่าสินค้านั้นเหลือในสต๊อกเท่าไหร่ เป็นสินค้าในหมวดหมู่ไหน เพราะเรากำหนดสินค้าด้วยรหัสสินค้าเดียวกันทั้งหมด ฉะนั้นจึ้งมีการนำ SKU เข้ามาใช้งาน เพื่อให้แยกประเภทสินค้าได้ละเอียดมากขึ้น (อ่านเพิ่มเติม > เช็ค! ร้านค้าออนไลน์กับความสำคัญของการจัดการสต็อก)
Barcode คืออะไร
บาร์โค้ด หรือ UPC (Universal Product Code) คือ รหัสสินค้าที่เป็นมาตรฐานสากล ใช้กันทั่วโลก ส่วนใหญ่แ้ล้วจะมี 12 หลัก และมีเฉพาะตัวเลขเท่านั้น ส่วน SKU คือ เป็นรหัสสินค้าที่กำหนดขึ้นเองสำหรับการดำเนินงานภายในองค์กร ใช้ในการสร้างความแตกต่างของแต่ละสินค้า และใน 1 สินค้า สามารถมีได้หลาย SKU สามารถกำหนดได้ทั้งตัวเลข และตัวอักษร
SKU และ Barcode ต่างกันอย่างไร
บาร์โค้ด หรือ Universal Product Code เป็นรหัสสินค้าที่ใช้กันเป็นมาตรฐานสากล โดยจะเป็นรหัสตัวเลขเท่านั้น จำนวน 12 ตัว ในขณะที่ SKU จะเป็นการกำหนดรหัสสินค้านั้นขึ้นเองภายในองค์กร อิงจากความแตกต่างของสินค้า ซึ่ง 1 สินค้า อาจมีหลาย SKU กำหนดด้วยตัวเลขและตัวอักษร สามารถกำหนดขึ้นได้เองตามความเข้าใจของผู้กำหนดได้เลย (อ่านเพิ่มเติม > ทำความรู้จักกับระบบ Fulfillment เก็บ แพ็ค ส่งสินค้า ช่วยลดต้นทุนธุรกิจ E-Commerce)
จัดการสต๊อกแบบ SKU ดีอย่างไร
- ใช้ในการบริหารจัดการคลังสินค้า ซึ่งจะช่วยให้จัดการได้อย่างแม่นยำและเป็นระบบมากขึ้น ลดการหยิบสินค้าไปแพ็คผิดพลาด ไม่ตรงกับคำสั่งซื้อ
- ใช้สำหรับติดตามสินค้าและนับสต๊อกคงเหลือตาม SKU ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
- ช่วยลดความซ้ำซ้อนของสินค้า หมดปัญหาการแพ็คผิด แพ็คซ้ำในสินค้าที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน
เทคนิคการกำหนด SKU
SKU จะเป็นการกำหนดรหัสสินค้านั้นขึ้นเองภายในองค์กร อิงจากความแตกต่างของสินค้า ซึ่ง 1 สินค้า อาจมีได้หลาย SKU กำหนดด้วยตัวเลขและตัวอักษร เพื่อเป็นการระบุให้เห็นความแตกต่างของประเภทใน 1 สินค้าได้อย่างชัดเจน เช่น
- 4 ตัวย่อแรกเป็นชื่อสินค้า
- 3 ตัวอักษรต่อมาเป็นสี
- 4 ตัวเลขหลังเป็นขนาด
.
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: www.cw.in.th , pospos.co
หากกำลังมองหาตัวช่วยจัดการธุรกิจ E-commerce หรือร้านค้าออนไลน์ คลังสินค้า Boxme Thailand เป็นผู้ให้บริการในด้านการจัดเก็บสินค้า พร้อมแพ็คและจัดส่งสำหรับธุรกิจออนไลน์โดยเฉพาะ ช่วยให้การจัดการร้านค้าง่ายและแม่นยำมากขึ้นด้วยระบบจัดการคลังแบบ WMS (Warehouse management System) โดยสามารถกำหนด SKU เพื่อคัดแยกสินค้าแต่ละชนิดได้ไม่มีผิดพลาด
ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง เพื่อขอรับรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 02-026-3165 หรือ > ขอรับใบเสนอราคา < กดที่นี่
