6 วิธีเลือกบริษัทแพ็คของ ให้ตอบโจทย์กับธุรกิจของคุณ

Share on:

เพราะผู้รับปลายทางคาดหวังว่าจะได้รับสินค้าในสภาพที่สมบูรณ์ มีการแพ็คอย่างแน่นหนา และจัดส่งรวดเร็ว จึงต้องคำนึงถึงบริษัทแพ็คของที่ตอบสนองความต้องการของทั้งร้านค้าและผู้ซื้อสินค้าได้เป็นอย่างดี เพื่อการจัดส่งที่ปลอดภัยหรือเกิดความเสียหายระหว่างการจัดส่งน้อยที่สุด ยิ่งปัจจุบันภาพลักษณ์ของร้านค้าที่ได้รับจากรีวิวหลังการขายเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับร้านค้าออนไลน์ ทุกขั้นตอนจึงควรจัดการด้วยทีมงานที่มีคุณภาพมากที่สุด เพราะมีผลต่อคะแนนร้านค้า อัตราการซื้อซ้ำ และประสบการณ์ที่ผู้ซื้อจะได้รับจากร้านค้า

1) มองหาจุดเด่นของบริษัทที่จ้างแพ็คของ

จุดเด่นของบริษัทแพ็คของแต่ละที่มักมีไม่เหมือนกัน โดยผู้ประกอบการสามารถคำนึงได้จากการตอบโจทย์ของธุรกิจมากที่สุด เช่น หากสินค้าของคุณเป็นสินค้าประเภทอาหารสด หรือผักผลไม้ ที่ต้องใช้ห้องเย็น ก็ควรเลือกบริษัทแพ็คของที่มีห้องควบคุมอุณหภูมิ หรือธุรกิจของคุณต้องการเชื่อมต่อคลังสินค้ากับออเดอร์จาก Marketplace ก็มองหาบริษัทแพ็คของที่สามารถเชื่อมต่อออเดอร์จากแพลตฟอร์มได้ด้วย (อ่านเพิ่มเติม > รู้จักประเภทคลังสินค้าพร้อมเลือกให้เหมาะกับร้านค้าออนไลน์)

2) พนักงานแพ็คมีความเป็นมืออาชีพ

การที่บริษัทแพ็คของ มีพนักงานแพ็คที่มีความเป็นมืออาชีพ สามารถห่อบับเบิ้ลกับตัวสินค้าได้แน่นหนา หรือแม้กระทั่งใช้เวลาแพ็คที่รวดเร็ว สามารถแพ็คสินค้าต่อวันได้เป็นจำนวนมาก ถือเป็นคุณสมบัติที่ดีของการคัดเลือกพนักงานของบริษัทแพ็คของ เพื่อที่ผู้รับจะได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการแพ็คอย่างมืออาชีพ บับเบิ้ลแน่นหนา เลือกขนาดกล่องได้เหมาะสมกับสินค้าทำให้สินค้าไม่ได้รับความเสียหายนั่นเอง

3) การดูแลสินค้า ตรวจสอบให้ทุกชิ้นก่อนจัดส่ง

สินค้าบางประเภทมีความเปราะบางอาจเสียหายจากการขนส่งได้ง่าย หรือมีการนำส่งมาจากโรงงานโดยตรง ทำให้มีตำหนิเกิดขึ้นได้ การดูแลสินค้าและตรวจสอบสภาพสินค้าทุกชิ้นก่อนเข้าสต๊อก เป็นกระบวนการสำคัญ เพื่อลดโอกาสที่ลูกค้าปลายทางจะได้รับสินค้าที่มีตำหนิ ดังนั้นการหาบริษัทแพ็คของ ที่ตรวจสอบ QC สินค้าให้ก่อนจัดส่งทุกชิ้นอย่างละเอียด เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่าบริษัทที่ไม่รองรับบริการนี้ (อ่านเพิ่มเติม > เปิดทุกขั้นตอนในคลังสินค้าครบวงจร สินค้าเข้าคลังแล้วทำอะไรต่อบ้าง?)

4) มีมากกว่าบริการแพ็คของที่ครบวงจร (เก็บ/แพ็ค/ส่ง)

บริษัทแพ็คของที่มีมากกว่าบริการแพ็คของถือเป็นเรื่องที่ควรคำนึง เช่น มีบริการแพ็คให้พร้อมจัดส่ง, สามารถขยายตลาดไปยังต่างประเทศได้เนื่องจากมีคลังพาร์ทเนอร์ที่ประเทศอื่น ๆ , บริษัทแพ็คของเป็นพาร์ทเนอร์กับขนส่งได้รับราคาดีลพิเศษ, เป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัท Marketing สามารถใช้บริการยิงแอดโฆษณา หรือทำการตลาดให้ได้ หรือมีบริการเสริมแอดมินเพจ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกผู้ประกอบการ ได้ใช้บริการแพ็คของพร้อมบริการเสริมอื่น ๆ ได้ครบจบในที่เดียว (อ่านเพิ่มเติม > เผยข้อมูล Boxme Fulfillment คลังสินค้าครบวงจร ทั้ง 5 ประเทศ)

5) มีรีวิวหรือลูกค้าที่น่าเชื่อถือ

บริษัทแพ็คของที่มีรีวิวจากลูกค้าผู้ใช้งานหรือมีประสบการณ์ให้บริการบริษัทขนาดใหญ่เป็นสิ่งที่ควรนำมาประกอบการพิจารณายิ่งกว่าค่าบริการ เพราะบริการที่ราคาถูกที่สุดอาจไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมกับธุรกิจที่สุด การได้รับความวางในและความน่าเชื่อถือที่ดีจากธุรกิจขนาดใหญ่ และอยู่ในเรทราคาที่เหมาะสม หมายถึงคลังสินค้าครบวงจรนั้นมีระบบการใช้งานคลังที่เสถียร สามารถรองรับธุรกิจได้ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่ นั่นจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่ควรพิจารณาด้วยเช่นกัน

6) คลังที่มีระบบเชื่อมต่อกับ Marketplace

ระบบ Omisell จาก Boxme Thailand เป็นระบบจัดการหลังบ้านที่เหมาะสำหรับร้านค้าที่มีช่องทางการขายผ่านหลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada, Shopify หรือเว็บไซต์ส่วนตัว โดยตัวระบบ Omisell สามารถจัดการออเดอร์จากทุกช่องทางขายและสต๊อกทั้งหมดได้ในหน้าเดียว ด้วยการเชื่อมต่อแพลตฟอร์มการขายกับระบบคลังสินค้าของ Boxme ให้สามารถซิงค์ถึงกันได้ เมื่อมีคำสั่งซื้อเข้ามาจากแพลตฟอร์มที่มีการขาย คำสั่งซื้อนั้นจะถูกส่งเข้ามารวมในหน้าจัดการของ Omisell เพื่อให้ผู้ขายสามารถมองเห็นและจัดการคำสั่งซื้อจากช่องทางต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย เป็นระบบระเบียบ และแม่นยำ ลดเวลาการดูแลออเดอร์จำนวนมากที่วุ่นวาย สามารถดึงข้อมูลจากแพลตฟอร์มได้อย่างถูกต้อง 100%

บริษัทที่ให้บริการรับแพ็คสินค้า รับแพ็คของ เป็นธุรกิจที่เปิดให้บริการสำหรับผู้ค้าเพื่อช่วยในการลดเวลาและต้นทุนความยุ่งยากในการแพ็คสินค้านั้น ๆ เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ธุรกิจออนไลน์หันมาใช้บริษัทแพ็คสินค้ากันมากขึ้น ถ้าหากท่านกำลังมองหาตัวช่วย ธุรกิจ E-commerce หรือร้านค้าออนไลน์ของท่าน คลังสินค้า Boxme Thailand ให้บริการในด้านจัดเก็บสินค้า พร้อมแพ็คจัดส่งให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณง่ายในการจัดการมากขึ้น