พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันคุ้นเคยกับการสั่งของออนไลน์กันมากขึ้นกว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมา ยิ่งเมื่อเจอกับวิกฤตเศรษฐกิจจากโควิดจนต้องถูกให้ออกจากงาน หลายคนจึงผันตัวมาเป็นผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์กันมากขึ้น จึงทำให้ระบบการซื้อขายในแพลตฟอร์มออนไลน์มีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง Boxme ได้รวบรวม 9 ช่องทางการขายของออนไลน์ยอดนิยม เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ได้เลือกใช้แพลตฟอร์มให้เหมาะสมกับสินค้าของคุณ
ช่องทางการขายคืออะไร?
ช่องทางการขาย คือ แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ต ที่ช่วยให้ผู้ขายและผู้ซื้อมีการแลกเปลี่ยนซื้อขายกันผ่านทางออนไลน์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการขายสินค้าที่ได้รับความนิยมในยุคปัจจุบัน ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจะมีคุณสมบัติและเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน เพื่อตอบสนองความต้องการซื้อของกลุ่มผู้บริโภคนั้น ๆ (อ่านเพิ่มเติม > 5 แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ ซื้อขายง่าย ยอดขายพุ่ง)
เลือกใช้แพลตฟอร์มอย่างไรให้เหมาะสม?
- ประเภทธุรกิจของคุณตรงกับคุณสมบัติของแพลตฟอร์มไหนมากที่สุด
- เป้าหมายในการดำเนินธุรกิจครอบคลุมถึงระดับประเทศและทั่วโลก หรือไม่
- ธุรกิจของคุณรองรับปริมาณการขายเพียงพอในปัจจุบัน และสามารถเติบโตได้มากขึ้นอีกหรือไม่
- งบประมาณในการลงทุนธุรกิจในส่วนของ E-Commerce มีมากน้อยแค่ไหน (อ่านเพิ่มเติม > เปิด 5 สัญญาณ บอกว่าร้านควรมีระบบจัดการออเดอร์)
ช่องทางการขายที่จัดการคำสั่งซื้อได้ในที่เดียว
เมื่อพูดถึงการเลือกใช้ช่องทางการขายสำหรับธุรกิจขายของออนไลน์ เพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการสร้างร้านค้าออนไลน์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด อาจมีหลายปัจจัยที่เจ้าของธุรกิจจำเป็นต้องศึกษาอย่างละเอียด ข้อดี-ข้อเสีย รวมถึงกำหนดจุดประสงค์ในการใช้บริการแพลตฟอร์มนั้น ๆ ก่อนเสมอ (อ่านเพิ่มเติม > เคล็ดลับขายของออนไลน์ให้สุดปัง! ทั้ง 6 แพลตฟอร์ม Social Media)
แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่เป็น Plug In ใช้งานในระบบ WordPress ที่ใช้ได้ทั้งแบบฟรี และแบบฟังก์ชันระดับสูงที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ได้รับความนิยมใช้งานเป็นแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ ที่มียอดการดาวน์โหลดสูงมากถึง 71 ล้านครั้งในปี 2019 คุณสมบัติที่โดดเด่น คือ มีฟีเจอร์และรูปแบบธีมที่เหมาะกับร้านค้าขายของออนไลน์ เช่น การขาย สต็อกสินค้า ระบบจัดการสินค้า การชำระเงิน และโปรโมชั่นต่างๆ ซึ่งมีระบบเทียบเท่า E-commerce ยักษ์ใหญ่ ที่สำคัญสามารถอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ได้ตลอดการใช้งาน
แพลตฟอร์มที่ใช้ในการจัดการข้อมูลบนเว็บไซต์ ที่ใช้เฉพาะด้านการขายของออนไลน์ หรือ E-Commerce คุณสมบัติที่โดดเด่น คือ มีฟังก์ชันการใช้งานที่ครบวงจร ใช้งานง่าย ครอบคลุมระบบการจัดการร้านค้าออนไลน์ตั้งแต่ การจัดหมวดหมู่สินค้า สต็อกสินค้า วิเคราะห์สินค้ายอดนิยม ระบบการจัดส่ง การชำระเงิน การออกบิล รวมถึงการจัดการด้านการตลาดต่างๆ สามารถสร้างสรรค์หน้าเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับสินค้าได้ไม่จำกัด และยังรองรับภาษาไทยด้วย
เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก มีตัวเลือกให้ใช้บริการมากมาย ตรงตามความต้องการของเจ้าของธุรกิจ สามารถทดลองใช้งานได้ฟรี 14 วัน มีเครื่องมือในการจัดการและทำการตลาดออนไลน์ที่มีคุณภาพ ที่สำคัญยังมีภาษาให้เลือกมากกว่า 50 ภาษา ช่วยทำให้การขายสินค้ากับลูกค้าชาวต่างชาติง่ายยิ่งขึ้น
เป็นแพลตฟอร์มขายออนไลน์ที่อยู่ในใจใครหลายคนอย่างแน่นอน ซึ่งในปีนี้เว็บไซต์ขายของออนไลน์อันดับหนึ่งที่มีคนใช้มากที่สุดในประเทศไทยก็ยังตกเป็นของ Lazada ซึ่งแพลตฟอร์มนี้เราสามารถเปิดร้านค้าออนไลน์ได้แบบฟรีๆ ไม่ต้องลงทุนอะไร ที่สำคัญยังเป็นแพลตฟอร์มที่มีทั้งเว็บไซต์ แอปพลิเคชันที่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุด มีระบบการจัดส่ง จัดเก็บสินค้าและการจ่ายเงินแบบรัดกุม และยังมีแคมเปญจ์โปรโมชันจูงใจให้ลูกค้าซื้อของมาต่อเนื่อง ซึ่งถ้าใครอยากเริ่มขายของออนไลน์… Lazada ก็เป็นอีกช่องทางที่พร้อมจะซัพพอร์ตธุรกิจใหม่ให้เติบโตก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ขั้นตอนการสมัคร ลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ Lazada ยืนยันตัวตน ลงรายละเอียดสินค้า ระบุราคาให้ชัดเจน
เป็นอีกแพลตฟอร์มที่มาแรงสูสีกันกับ Lazada เลยก็ว่าได้ แต่จุดเด่นของ Shopee คือสามารถขายได้ทั้งของมือหนึ่งและมือสอง ส่งสินค้าฟรี หรือสามารถจัดแคมเปญ โปรโมชัน โค้ดส่วนลดในการจูงใจลูกค้าของเราเองได้ จึงทำให้ Shopee เป็นอีกหนึ่งเว็บที่มีอันดับการค้นหาหรือ Search Engine Optimization ที่ดีมาได้อย่างต่อเนื่อง โดยหากต้องการจะสมัครเพื่อขายหรือซื้อสินค้าเพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Shopee หรือสามารถสมัครผ่านทางเว็บไซต์ Shopee ได้เช่นกัน ลงทะเบียนเพื่อทำการยืนยันตัวตนโดยใช้ข้อมูลส่วนตัว หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล LINE หรือ Facebook เป็นต้น
JD.co.th เป็นออนไลน์แพลตฟอร์มที่เกิดจากความร่วมมือ ระหว่าง JD.com และ Central Group ภายใต้ชื่อ JD Central กับเป้าหมายการขึ้นเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย โดยมีคู่แข่งเจ้าประจำคือ Lazada ของ Alibaba เป็นเจ้าตลาด ตามมาด้วยคู่แข่งอีกหลายราย เช่น Shopee ของ SEA (หรือ Garena เดิม)
เว็บไซต์นี้เหมาะเป็นพิเศษสำหรับธุรกิจ B2B ที่เน้นการขายสินค้าในจำนวนมากๆ ยกโหล ยกแพ็ก หรือ ขายส่ง โดยเป็นสินค้าที่ผลิตเอง ระบุสต็อกสินค้าได้ในกรณีสินค้าหมดหรือผลิตไม่ทันขาย สามารถถทำ Quotation หรือใบเสนอราคาจากเว็บไซต์ได้ อีกทั้งสามารถติดต่อกับพ่อค้าคนกลางได้ในวงกว้าง และตัวเว็บไซต์ของ Alibaba เองก็ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นขายของออนไลน์ ไม่มีการแบนไอดี นอกจากทำผิดร้ายแรงจริงๆ ส่วนขั้นตอนการสมัคร ก็ทำได้โดยการเข้าเว็บไซต์ Alibaba จากนั้นไปที่ Join Now กรอกข้อมูลรายละเอียดส่วนตัวเป็นภาษาอังกฤษ จากนั้นคลิกที่ Create Account เลือกประเภทของสินค้า พร้อมกับเขียนคำอธิบายลงไปสั้น ๆ อัพโหลดรูปถ่าย ขนาด และรุ่นของสินค้า พร้อมทั้งเลือกรูปแบบการชำระเงินให้เรียบร้อย ใส่รายละเอียดที่ตั้งของสถานที่จัดส่งสินค้า หรือที่อยู่ผู้ขายถือเป็นอันเรียบร้อย
เป็นอีกแพลตฟอร์มที่สามารถเปิดร้านขายสินค้าได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าทั่วไปทั้งมือหนึ่งและมือสอง ใช้งานง่าย ผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบราคาและเห็นภาพของสินค้าได้ชัดเจน และขั้นตอนการลงขายสินค้าไม่ยุ่งยาก แค่ไม่กี่นาทีก็สามารถทำการฝากขายสินค้าเข้าสู่สายตาลูกค้าได้ ขั้นตอนการสมัคร ก็แค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น KAIDEE ลงในสมาร์ทโฟน หรือจะสมัครผ่านทางเว็บไซต์ก็ได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: siam.delivery , news.trueid.net
ระบบ Omni Channel จาก Boxme Thailand เป็นระบบจัดการหลังบ้านที่เหมาะสำหรับร้านค้าที่มีช่องทางการขายผ่านหลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada, Shopify หรือเว็บไซต์ส่วนตัว โดยตัวระบบ Omisell สามารถจัดการออเดอร์จากทุกช่องทางขายและสต๊อกทั้งหมดได้ในหน้าเดียว ด้วยการเชื่อมต่อแพลตฟอร์มการขายกับ ระบบคลังสินค้าของ Boxme ให้สามารถซิงค์ถึงกันได้ เมื่อมีคำสั่งซื้อเข้ามาจากแพลตฟอร์มที่มีการขาย คำสั่งซื้อนั้นจะถูกส่งเข้ามารวมในหน้าจัดการของ Omisell เพื่อให้ผู้ขายสามารถมองเห็นและจัดการคำสั่งซื้อจากช่องทางต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย เป็นระบบระเบียบ และแม่นยำ ลดเวลาการดูแลออเดอร์จำนวนมากที่วุ่นวาย สามารถดึงข้อมูลจากแพลตฟอร์มได้อย่างถูกต้อง 100%
ระบบ Omni Channel จัดการออเดอร์ในที่เดียว
ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง เพื่อขอรับรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 02-026-3165 หรือ > ขอรับใบเสนอราคา < กดที่นี่
