เลือกรถขนส่งสินค้าอย่างไรให้เหมาะกับสินค้าและคุ้มค่าส่ง

Share on:

รถขนส่งสินค้า

ปัจจุบันธุรกิจโลจิสติกส์เข้ามามีบทบาทกับทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายออนไลน์ สินค้าขนาดเล็ก ก็ล้วนใช้บริการขนส่ง แม้กระทั่งซื้ออาหาร Delivery ผ่านทางแอพลิเคชั่น รวมถึงธุรกิจขนาดใหญ่ ที่ต้องใช้รถขนส่งสินค้าขนาดกลาง ไปจนถึงใหญ่ เพื่อขนถ่ายสินค้าที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงต้นทุนในส่วนนี้ได้ แต่ผู้ส่งเหล่านี้สามารถควบคุมการขนส่งสินค้าให้มีประสิทธิภาพ คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปได้ จากการพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ในการเลือกบริษัทรถขนส่งสินค้า

1. เช็คราคาให้ละเอียด

เรื่องของราคาเป็นปัจจัยต้น ๆ ในการตัดสินใจเลือกใช้บริการ บางเจ้าถูก บางเจ้าค่าบริการสูงปะปนกันไป ความจริงแล้วราคาสูงหรือต่ำมาจากปัจจัยเรื่องต้นทุน ผู้ให้บริการบางเจ้ามีต้นทุนสูงเนื่องจากต้องใช้จำนวนพนักงานในการบริหารจัดการมาก บางรายมีราคาที่ต่ำกว่าเพราะต้นทุนในการบริหารจัดการน้อยกว่า ดังนั้นควรรวบรวมและเปรียบเทียบค่าบริการจากผู้ให้บริการหลาย ๆ เจ้า เพื่อเลือกใช้ผู้ให้บริการที่เหมาะกับธุรกิจมากที่สุด (อ่านเพิ่มเติม > ส่องสูตรลัดค่าส่งถูกลง ฉบับ Dimension Weight)

2.เลือกขนาดรถที่เหมาะสม

• รถกระบะ 4 ล้อ สามารถบรรทุกน้ำหนักได้ไม่เกิน 1.5 ตัน
• รถบรรทุก 6 ล้อ สามารถบรรทุกน้ำหนักได้ไม่เกิน 6 ตัน
• รถบรรทุก 10 ล้อ สามารถบรรทุกน้ำหนักได้ไม่เกิน 12 ตัน
• รถบรรทุก 18 ล้อ สามารถบรรทุกน้ำหนักได้ไม่เกิน 30 ตัน
• รถบรรทุก 22 ล้อ สามารถบรรทุกน้ำหนักได้ไม่เกิน 40 ตัน

*สำหรับปริมาตรความจุของรถแต่ละคันจะไม่เท่ากัน จึงควรตรวจสอบความกว้าง ยาว และสูงเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถบรรจุสินค้าทั้งหมดได้

3.คำนวนเวลาการเดินทางให้ดี

คำนึงถึงเวลารับ – ส่งสินค้า และนัดหมายผู้รับเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการส่งสินค้าก่อนเวลาที่อาจะทำให้เกิดการรอและเกิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม รวมถึง ควรจัดเส้นทางรับ – ส่งก่อนการขนส่ง กรณีที่มีจุดรับ – ส่งสินค้ามากกว่า 1 จุด การวางแผนลำดับการรับ – ส่งสินค้าเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อประหยัดเวลาการขนส่ง และลดระยะทางการขนส่งจึงควรลำดับตามความใกล้ของแต่ละจุดตามเงื่อนไขที่สามารถทำได้

4.ประกันสินค้าระหว่างเดินทางก็สำคัญ

“ประกันสินค้าระหว่างเดินทางสำคัญมาก” สิ่งของบางอย่างอาจจะมีขนาดไม่ใหญ่มากแต่มีมูลค่าสูง หากสูญหายไปหรือเกิดความเสียหายก็จะต้องหาความรับผิดชอบจากผู้ให้บริการเหล่านั้น การที่มีประกันภัยสินค้านั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก หากไม่คำนึงถึงข้อนี้ก็อาจทำให้เสียหายทั้งผู้ซื้อ และผู้ขาย โดยที่ผู้ให้บริการขนส่งไม่ต้องรับผิดชอบเพราะไม่ได้ซื้อประกันไว้นั่นเอง (อ่านเพิ่มเติม > ขายของออนไลน์ห้ามมองข้ามความปลอดภัยระหว่างขนส่ง!)

5.สามารถติดตามการจัดส่งได้

การติดตามการจัดส่งถือเป็นสิ่งสำคัญมาก แน่นอนว่าเวลาที่ใช้บริการรถขนส่งไม่ว่าจะเป็นผู้ส่งหรือเป็นผู้รับ ก็คงต้องการทราบถึงสถานะการจัดส่งว่าตอนนี้สินค้าอยู่ที่ไหนแล้ว  บริษัทรถขนส่งบางบริษัทได้นำเทคโนโลโยติดตามสถานะเข้ามาใช้เพื่อให้สะดวกต่อการตรวจสอบสถานะการขนส่งของผู้ใช้บริการ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น และวางใจหากเจ้าไหนมีระบบติดตามสถานะแบบอัตโนมัติ ก็ให้เก็บเจ้านั้นเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ควรพิจารณา (อ่านเพิ่มเติม > อัพเดต! เปิดศึก 13 ขนส่งพัสดุ Kerry (เคอรี่), ไปรษณีย์ไทย ฯ ต่างกันอย่างไร)

ขอขอบคุณข้อมูลจาก​:  https://blog.giztix.com

เปรียบเทียบทุกขนส่งได้ในที่เดียว พร้อมค่าส่งพิเศษทันที

ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง เพื่อขอรับรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 02-026-3165 หรือ > เปรียบเทียบราคาขนส่ง < กดที่นี่

Don't forget to share this post!

Share on:

Facebook
LinkedIn
Twitter
Telegram

Share on:

Expand your Business to Southeast Asia​