เปิดไลฟ์สด-ปิดการขาย เพิ่มรายได้ให้ร้านค้าออนไลน์แบบปังๆ

Share on:

ไลฟ์สด

เทรนด์การขายของที่มาแรงที่สุดในยุคนี้นั่นคือ การไลฟ์สดขายสินค้าผ่านทาง Facebook ไม่ว่าจะขายเสื้อผ้า ขายกระเป๋า หรืออื่น ๆ การไลฟ์สดทำให้ผู้ขายกับลูกค้าได้พูดคุยกันจริง ๆ แบบ Real-Time มาดูวิธีการเตรียมการไลฟ์สด และเทคนิคการไลฟ์อย่างไรให้มียอดผู้เข้าชมทะลุเป้า พร้อมปิดการขายปัง ๆ ได้ในไลฟ์เดียว

ไลฟ์สด คืออะไร ?

เปิดไลฟ์สด-ปิดการขาย เพิ่มรายได้ให้ร้านค้าออนไลน์แบบปังๆ

“ ไลฟ์สด” (Live) คือ ประเภทการโพสต์จาก Facebook ที่สามารถถ่ายทอดสดเรื่องราวต่าง ๆ ได้แบบ Real-Time โดยผู้ใช้งานที่ติดตามเพจหรือไม่ได้ติดตามเพจ สามารถมีส่วนร่วมกับการถ่ายทอดสดไปพร้อมกันได้ สำหรับร้านค้าที่ยังไม่เคยลองไลฟ์สด แม้ว่ากระแสการไลฟ์สดจะได้รับความนิยมมาช่วงหนึ่งแล้ว แต่การเริ่มต้นตอนนี้ก็ยังไม่สาย เพราะไลฟ์สดคือวิธีการเพิ่มยอดขายออนไลน์ที่สามารถไลฟ์ได้ฟรีผ่านทางเพจส่วนตัว และง่ายต่อการขายของด้วยระบบรองรับการไลฟ์สดขายของ หรือที่เรียกว่า “โปรแกรมดูดออเดอร์” อีกด้วย

การไลฟ์สดช่วยเพิ่มยอดขายได้อย่างไร ?

เปิดไลฟ์สด-ปิดการขาย เพิ่มรายได้ให้ร้านค้าออนไลน์แบบปังๆ

ปัจจุบันนี้ผู้บริโภคส่วนใหญ่เลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทาง Social Media มากขึ้น ลูกค้าส่วนใหญ่มักมีความต้องการที่จะเห็นสินค้าอย่างชัดเจนเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ โดยพิจารณาจาก คุณสมบัติ สีของสินค้า รวมถึงวิธีการใช้งานสินค้า การ Live สดจึงเป็นวิธีการที่จะทำให้ร้านค้าออนไลน์สามารถตอบโจทย์ผู้ซื้อในจุดนี้ ทดแทนการไม่ได้เห็นหรือสัมผัสสินค้าจริงเหมือนกันซื้อของออฟไลน์หน้าร้าน 

ผู้ชมที่เข้ามาดูไลฟ์สด มีโอกาสสูงมากที่จะเป็นลูกค้า เหมือนการเปิดหน้าร้านที่คนที่แวะเข้ามาดูสินค้าในร้าน มีโอกาสจะเป็นลูกค้าและซื้อของกลับออกไป การไลฟ์สดนี้ก็เหมือนกับการประกาศขายสินค้าหน้าร้านออฟไลน์ เรียกให้คนเข้ามาดูสินค้าในร้าน คนที่แวะเข้ามาดู Live ก็คือคนที่สนใจสินค้าหรือวิธีการขายของเราเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การขายที่ดีจะทำให้เราปิดการขายได้ง่ายยิ่งขึ้น บางคนอาจจะไม่ได้ซื้อตั้งแต่ครั้งแรกที่ดูไลฟ์ แต่ก็ยังมีโอกาสปิดการขายได้ในครั้งต่อ ๆ ไป เพราะลูกค้ากลุ่มนี้มีความสนใจในสินค้าอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องการความมั่นใจในสินค้า จึงรอดูผลตอบรับก่อนว่ามีคน CF เยอะไหม ? ซื้อไปแล้วเป็นยังไงบ้าง ? ใช้ดีไหม ? จากการรีวิวหน้าไลฟ์เพื่อเพิ่มแรงจูงใจ ให้ตัดสินใจซื้อนั่นเอง

วิธีมัดใจลูกค้าด้วย ไลฟ์สด

เปิดไลฟ์สด-ปิดการขาย เพิ่มรายได้ให้ร้านค้าออนไลน์แบบปังๆ

1. เลือกจุดหมายที่จะไลฟ์

การไลฟ์สดไม่ได้มีเพียงการไลฟ์ผ่านหน้าไทม์ไลน์ของตัวเองเท่านั้น แต่ยังมีการไลฟ์ผ่านกลุ่มขายสินค้า ไลฟ์ผ่านเพจ ซึ่งการเลือกจุดหมายที่จะทำการไลฟ์ จะทำให้เข้าถึงลูกค้าตามกลุ่มเป้าหมายของเราได้มากขึ้น

2. สร้าง Signature ของตัวเอง
การที่เราหาจุดเด่นในการไลฟ์สดที่ไม่ซ้ำกับใคร และน่าสนใจ เนื่องจากสำหรับชาวโซเชี่ยลบางคน การไลฟ์สดเปรียบเสมือนสื่อบันเทิงชนิดหนึ่ง เนื่องจากผู้รับชมไลฟ์สดบางคนไม่ได้ต้องการที่จะเข้ามาซื้อสินค้า แต่เข้ามารับชมความบันเทิงที่เราจะมอบให้ผ่านการไลฟ์ในแต่ละครั้ง ซื้งผู้ชมกลุ่มนี้จะเป็นฐานผู้ชมที่จะช่วยกระจายชื่อเสียง และการตลาดแบบปากต่อปาก(บอกต่อ) จนกลายเป็นคลิป Viral Marketing ชนิดหนึ่ง และผู้ชมกลุ่มอื่นๆจะตามเข้ามาดูเอง

3. ช่วงเวลาที่ดี จะเจอลูกค้าที่ดี
ช่วงเวลา 19.00 น. ถึง 22.00น. ของทุกวัน คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไลฟ์ เพราะเป็นช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่เลิกงานแล้ว กำลังเดินทางกลับ จะเป็นช่วงที่คนรับชมไลฟ์สดมากที่สุด โดยระยะเวลาในการไลฟ์จะอยู่ที่ประมาณ 1 ชม. เป็นอย่างต่ำและเพิ่มระยะเวลาจากยอดผู้เข้าชม และรีเควสจากลูกค้าแต่ไม่ควรนานเกิน 2 ชม.

อย่างไรก็ตาม การเลือกช่วงเวลาไลฟ์สด ควรคำนึงถึงพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าของแบรนด์ ว่ามีพฤติกรรมอย่างไรบ้าง มีการทำกิจกรรมอะไรในช่วงเวลาไหนบ้าง เพื่อเข้าถึงกลุ่มนั้น ๆ ได้ตรงเวลาและตรงความต้องการ

4. แคปชั่นโดน ๆ จะทำให้คนกดดูไลฟ์
คำอธิบายคลิปก่อนเริ่มการไลฟ์ หรือหัวโพส ควรใช้คำที่ลูกค้าสามารถค้นหาในเฟสบุ๊คแล้วติดการค้นหาได้ เช่นคำว่า เสื้อผ้า ลดราคา SALE เป็นต้น เพื่อให้บุคคลทั่วไปสามารถค้าหาคลิปของเราได้ง่าย และการเลือกใช้แคปชั่นที่อ่านแล้วรู้สึกว่าตรงกับคนดู จะยิ่งทำให้ได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น

5. บริการหลังการขาย
เมื่อสินค้าของคุณได้รับการชำระเงินจากลูกค้าแล้ว การจัดเตรียมสินค้าให้ลูกค้าตามอเดอร์ให้ถูกต้อง ที่อยู่ของลูกค้า การแพ็คสินค้า การส่ง รวมถึงระยะเวลาการจัดส่ง ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากสินค้าคุณดีแค่ไหน หรือไลฟ์ขายสินค้าของคุณจะน่าสนใจเพียงใด แต่หากลูกค้าที่ได้รับสินค้าไป ไม่ได้รับสินค้าตามออเดอร์ที่เขาสั่ง ก็จะเกิดกระแสรีวิวที่ติดลบตามมา

ขอขอบคุณข้อมูลจาก: www.page365.net

เตรียมตัวก่อนไลฟ์สด อย่างไรบ้าง ?

เปิดไลฟ์สด-ปิดการขาย เพิ่มรายได้ให้ร้านค้าออนไลน์แบบปังๆ

1. บอกเวลาล่วงหน้า ไลฟ์วันไหน เวลาเท่าไหร่

ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน การไลฟ์สดจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้แปลว่าทุกคนจะพร้อมดูไลฟ์ของคุณอยู่ตลอดเวลา ควรมีการแจ้งเอาไว้ล่วงหน้า เพื่อให้คนดูได้เตรียมความพร้อม ไลฟ์วันไหน เวลาเท่าไหร่ ไลฟ์เรื่องอะไร จะช่วยเพิ่มแรงกระตุ้นให้คนรอดูมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญควรวางแผนว่าจะไลฟ์เวลาไหน ช่วงไหนที่คนจะดูเยอะ แล้วอย่าลืมฝากแชร์ข้อความด้วย 

2. สัญญาณต้องดี Wi-Fi ต้องแรง

เรื่องนี้สำคัญมากๆ คงไม่มีใครอยากดูไลฟ์สดที่ไม่ราบรื่น กระตุก หรือเสียงขาดหายอยู่ตลอดเวลา ทำให้รู้สึกไม่อยากซื้อของไปซะอีก อินเทอร์เน็ตที่ใช้ไลฟ์สดควรจะต้องเร็วพอสมควร ถ้าใช้เชื่อมต่อ Wi-Fi ก็ควรมีค่าอัปโหลดที่อย่างน้อย 1MB ขึ้นไปแต่ถ้าต้องไลฟ์นอกสถานที่ก็แนะนำให้ใช้ 4G ในการไลฟ์ หากสัญญาณอินเทอร์เน็ตต่ำ ตัวปุ่ม “Go Live” เพื่อเริ่มการถ่ายทอดสดจะเปลี่ยนเป็นสีเทาและเริ่มใช้งานไม่ได้

3. จะพูดอะไร เตรียมตัวไว้ จะได้ไม่ออกทะเล

การไลฟ์เป็นเหมือนการถ่ายทอดสด หากเกิดข้อผิดพลาดจะไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ แนะนำว่าก่อนจะไลฟ์ ลองวางแผนเอาไว้ก่อนว่าจะพูดเรื่องอะไรบ้าง หรือถ้าจะขายของจะขายอะไรบ้าง ราคาเท่าไหร่  จะได้ไม่ลนลานเมื่อถึงเวลาจริง ที่สำคัญการระบุขอบเขตจะไม่ทำให้คุณพูดนอกเรื่องจนน่าเบื่อ

อุปกรณ์ไลฟ์สดขายของ

เปิดไลฟ์สด-ปิดการขาย เพิ่มรายได้ให้ร้านค้าออนไลน์แบบปังๆ
  1. อินเทอร์เน็ต : ปัจจัยที่เรียกได้ว่าสำคัญที่สุดในการไลฟ์ เพราะเป็นขายออนไลน์ดังนั้นอินเทอร์เน็ตต้องดี ไม่กระตุก ไลฟ์ไปค้างไปก็ทำให้ผู้ชมเกิดอาการเซ็งได้เหมือนกัน

  2. ไฟไลฟ์สด : ช่วยเพิ่มแสงให้มองเห็นผู้ไลฟ์และสินค้าได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

  3. ไมโครโฟน : ไมค์ที่ติดตั้งมากับโทรศัพท์อาจจะไม่เพียงพอต่อการกระจายเสียงของเรา แนะนำให้ซื้อไมค์ดี ๆ สักตัวไว้ใช้ ผู้ชมจะได้ยินเสียงเราชัดเจนขึ้น

  4. ชั้นวางของ : เพื่อง่ายต่อการหยิบจับสินค้าที่จะใช้ในการขาย แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการขาย ลูกค้าเห็นสินค้าชิ้นอื่น ๆ ต้องรอติดตามจองสินค้าที่ชอบแน่นอน

  5. ป้าย : แจ้งให้ลูกค้าทราบข้อมูลต่าง ๆ ให้รายละเอียดสินค้า

  6. ขาตั้งกล้อง : หากไลฟ์ผ่านโทรศัพท์ ไม่มีขาตั้งกล้องก็ทำให้ภาพสั่นได้

ระบบ Omisell จาก Boxme Fulfillment เป็นระบบจัดการหลังบ้านที่เหมาะสำหรับร้านค้าที่มีช่องทางการขายผ่านหลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น ไลฟ์สดผ่าน Page 365, Shopee, Lazada, Shopify หรือเว็บไซต์ส่วนตัว โดยตัวระบบ Omisell สามารถจัดการออเดอร์จากทุกช่องทางขายและสต๊อกทั้งหมดได้ในหน้าเดียว  ด้วยการเชื่อมต่อแพลตฟอร์มการขายกับระบบคลังสินค้าของ Boxme ให้สามารถซิงค์ถึงกันได้ เมื่อมีคำสั่งซื้อเข้ามาจากแพลตฟอร์มที่มีการขาย คำสั่งซื้อนั้นจะถูกส่งเข้ามารวมในหน้าจัดการของ Omisell เพื่อให้ผู้ขายสามารถมองเห็นและจัดการคำสั่งซื้อจากช่องทางต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย เป็นระบบระเบียบ และแม่นยำ ลดเวลาการดูแลออเดอร์จำนวนมากที่วุ่นวาย สามารถดึงข้อมูลจากแพลตฟอร์มได้อย่างถูกต้อง 100%

ระบบจัดการออเดอร์

สนใจระบบจัดการออเดอร์จากหลายช่องทางในหน้าเดียว

ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง เพื่อขอรับรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 02-026-3165 หรือ > ขอรับใบเสนอราคา < กดที่นี่

Don't forget to share this post!

Share on:

Facebook
LinkedIn
Twitter
Telegram

Share on:

Expand your Business to Southeast Asia​