เนื่องจากยุคนี้ ตลาดออนไลน์มาแรง ทำให้การคิดหรือสร้างสรรค์คอนเทนต์ในแต่ละแพลตฟอร์มค่อนข้างแตกต่างกัน และบทความนี้ Boxme จะมาสรุปให้ว่า Social Media แพลตฟอร์มไหน ควรใช้คอนเทนต์แบบไหนในการเจาะกลุ่มลูกค้าในแพลตฟอร์มนั้นบ้าง (อ่านเพิ่มเติม > 5 คอนเทนต์ Social Media สุดฮิต ปี 2022)
1. Facebook แหล่งแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ผ่าน Social Media

พฤติกรรมของคนเล่น Facebook ส่วนใหญ่จะชอบกดไลค์และแชร์เนื้อหาต่างๆ ที่ตนเองชอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ดราม่า เรื่องการเมือง เรื่องแปลกใหม่ หรือเรื่องที่เกี่ยวกับการพัฒนาตัวเองก็ตาม ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของบุคคลนั้นๆ ลักษณะคอนเทนต์ใน Facebook ส่วนใหญ่จึงเป็นการแสดงตัวตน ความรู้สึกต่างๆ ของตนเองออกมาผ่านการแชร์ การโพสต์ เพื่อให้คนอื่นๆ มองเห็นความเคลื่อนไหวของเรา
และอีกส่วนหนึ่ง Facebook ยังเป็นช่องทางในการติดตามแบรนด์และ Facebook ยังเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นช่องทางในการติดตามแบรนด์ต่างๆ หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงในแวดวงต่างๆ ที่เราสนใจผ่านทางแฟนเพจได้ด้วย
คอนเทนต์บน Facebook สามารถนำเสนอได้ทั้งแบบรูปภาพและวีดีโอ ส่วนเนื้อหานั้นควรเป็นไปในเชิงสร้างสรรค์ สร้างคุณค่า น่าแชร์ต่อ ยกตัวอย่างเช่น โพสให้กำลังใจช่วงวิกฤตยูเครน โพสนวัตกรรมใหม่ที่พึ่งถูกคิดค้นขึ้น หรือเป็นคอนเทนต์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพก็ได้ ซึ่งก็แล้วแต่ผลิตภัณฑ์ของคุณที่อยากจะทำคอนเทนต์
2. Twitter ศูนย์รวม Trend ที่รวดเร็วที่สุด
พฤติกรรมของคนเล่น Twitter คือ มีความกระตือรือร้นกับข่าวสารอยู่ตลอดเวลา เพราะเทรน Twitter เป็นสิ่งที่มีผลกระทบอย่างมากต่อสาธารณะชนในวงกว้างไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ดี ถ้าติดเทรน Twitter แล้วก็จะดังระดับประเทศได้เลย เพราะเป็นสถานที่ที่ผู้คนเข้ามาเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น และเห็นว่ามีบทสนทนา เหตุการณ์ต่างๆ ที่กำลังขับเคลื่อนสังคมและส่งผลต่อด้านอื่นๆ ของชีวิตได้ โดยจุดเด่นอย่างหนึ่งของ Twitter เลยก็คือการใช้ “แฮชแท็ก” นั่นเอง
ดังนั้น ถ้าคิดจะทำโฆษณาโดยใช้ Twitter อย่าลืมใช้แฮชแท็กให้เป็นประโยชน์กันด้วย นอกจากชาว ทวิตจะทรงอิทธิพลและมีความกระตือรือร้นแล้ว Twitter นับได้ว่าเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของแบรนด์ เพราะสามารถสื่อสารไปในวงกว้างได้มากกว่าและเร็วกว่าแพลตฟอร์มอื่น อีกทั้งยังเป็นช่องทางในการสร้างความเชื่อมโยงทั้งแบรนด์และกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี
3. Youtube ศูนย์กลาง คอนเทนต์ Video ที่ใหญ่ที่สุด

พฤติกรรมของคนเล่น Youtube ส่วนใหญ่จะใช้เวลาค่อนข้างนาน เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่เป็นรูปแบบของวิดีโอทำให้ใช้เวลาค่อนข้างนานกับการใช้งานบนแพลตฟอร์มนี้ ซึ่งคอนเทนต์บน Youtube เป็นคอนเทนต์ที่มีลักษณะจำกัดเฉพาะ คือต้องเป็นวีดีโอเท่านั้น
ฉะนั้นการที่จะผลิตคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มนี้ จึงต้องทำวิดีโอให้น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นปกคลิป เปิดคลิป เนื้อหาต้องไม่น่าเบื่อ สิ่งเหล่านี้เอง ที่จะทำให้วิดีโอบน Youtube ของคุณน่าสนใจ และถ้ามีผู้ใช้มากดติดตามและไลค์ รวมถึงแชร์ช่องของคุณก็จะยิ่งทำให้คุณเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น (อ่านเพิ่มเติม > ชี้เป้า เขียน Hashtag แบบไหน ช่วยดันโพสให้คนเห็นเยอะ!)
4. Instagram ศูนย์รวมคอนเทนต์ความงามและแฟชั่น
พฤติกรรมของคนเล่น Instagram ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัยรุ่นมากที่สุด และโดยคอนเทนต์ส่วนมากจะเป็นรูปภาพและ Stories IG เกี่ยวชีวิตประจำวันหรือสิ่งที่ตัวเองสนใจ และในปีนี้ก็จะมี Reels เข้ามาซึ่งเน้นเป็นคอนเทนต์วิดีโอสั้นๆ ซึ่ง Instagram มีอัตราในการเข้าถึงโพสต์สูงกว่า Facebook และ Twitter ถ้าเทียบสัดส่วนจากแบรนด์ Top 100 ของโลก มีถึง 90% ที่ใช้ Instagram
โดย Instagram กลายมาเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ถูกใช้ในการทำการตลาดโดยแบรนด์ต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะในแง่ของการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ และวิสัยทัศน์ ให้ผู้บริโภครับรู้ ซึ่งก็เป็นอีกสถานที่ที่แนะนำให้พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์มาเปิดตลาดเช่นกัน
5. Tiktok ศูนย์รวม Short Video ที่มาแรง

พฤติกรรมของคนเล่น Tiktok ส่วนใหญ่จะใช้เวลาค่อนข้างสั้น เนื่องจาก TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่เป็นรูปแบบวิดีโอสั้น ซึ่งเทรนของ Tiktok ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ “Entertainment” ที่มาแรงต่อเนื่อง โดยที่ใครๆ ก็สามารถมีชื่อเสียงจาก Tiktok ได้
เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่เข้าถึงผู้ใช้งานได้ง่าย ทุกเพศ ทุกวัย ใช้งานง่าย รูปแบบวิดีโอที่หลากหลายให้เลือกรังสรรค์ และพ่อค้า แม่ค้า ก็สามารถมาเปิดตลาดในแพลตฟอร์มนี้ได้ โดยคิดคอนเทนต์ของผลิตภัณฑ์และบริการของคุณ แล้วสร้างออกมาในรูปแบบที่คุณอยากสื่อสารกับผู้บริโภคโดยเน้นนความสนุก และมีสาระลงไปด้วย เพื่อให้ลูกค้าไม่เบื่อกับการขายของอย่างเดียว
สรุปแล้วจะเห็นได้ว่า การทำคอนเทนต์แต่ละแพลตฟอร์มนั้น ค่อนข้างจะแตกต่างกัน เพราะบางแพลตฟอร์มก็เน้นวิดีโอเป็นหลัก เช่น Youtube หรือบางแพลตฟอร์มก็เน้นใช้ รูปภาพกับวิดีโอแบบสั้น เช่น Instagram หรือคอนเทนต์ที่เน้นรูปแบบวิดีโอสั้นก็จะเป็น Tiktok
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มไหนคุณก็สามารถเข้าไปเปิดตลาดได้ แค่เพียงรู้ว่ากลุ่มลูกค้าของแต่ละแพลตฟอร์มเป็นอย่างไร
หากใครที่กำลังประสบปัญหาการที่ต้องตอบคำถามหรือปิดการขายกับทุกแพลตฟอร์มในการดูแลลูกค้าหลายช่องทาง จนบริหารจัดการเองไม่ไหว ไม่มีเวลามากพอในการทำ และต้องการระบบในการช่วยจัดการปัญหาต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งทางเรามีระบบจัดการช่องทางการขายช่วยซัพพอร์ต สามารถปรึกษาทางเราได้จากช่องทางการติดต่อข้างล่างได้เลยครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก > Iplandigital
สนใจระบบเชื่อมต่อคำสั่งซื้อจากทุกช่องทางในหน้าเดียว
ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง เพื่อขอรับรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 02-026-3165 หรือ > ขอรับใบเสนอราคา < กดที่นี่