ปัจจุบันการขายของออนไลน์เดี๋ยวนี้มีหลายแบบ แถมยังสร้างรายได้ไม่มีสิ้นสุด เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็สามารถเป็นแม่ค้าออนไลน์ได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีสินค้าอยู่ตัวเอง ไม่ต้องลงทุนเยอะ ซึ่งบทความนี้ก็จะมาพูดถึง การขายแบบดรอปชิป นั่นเอง แม่ค้า – พ่อค้าออนไลน์จะได้รู้ว่าคืออะไร รวมทั้งมีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้างและควรจะทำไหม (อ่านเพิ่มเติม > 5 เคล็ดลับ ขายของออนไลน์อย่างไรให้พิชิตใจลูกค้า)

Dropship คือ?

เผยเทคนิคการทำ Dropship ที่ไม่มีใครบอกคุณ!

       คือ ธุรกิจช่องทางทำรายได้แนวใหม่ ซึ่งก็คือการทำธุรกิจขายของออนไลน์รูปแบบหนึ่งโดยที่ร้านค้าไม่ต้องมีสินค้าที่จะขายเป็นของตัวเอง ระบบนี้จะเป็นการนำสินค้าของคนอื่นมาขาย  คล้ายกับการเป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับซัพพลายเออร์ หรือที่เราเข้าใจกันในรูปแบบของ “ตัวแทนจำหน่าย” การขายของแบบดรอปชิปจะเป็นการนำสินค้าของคนอื่นมาขาย

       โดยที่เราไม่ต้องสต๊อกสินค้า หรือส่งของเอง แค่นำข้อมูลของสินค้าจากผู้ขายอื่นมาใช้ และบวกกำไรเพิ่มในการขาย เมื่อขายได้ก็เพียงแต่แจ้งให้เจ้าของสินค้าจัดส่งสินค้าให้กับผู้ซื้อ แล้วจึงจ่ายเงินค่าสินค้า โดยมาโพสขายลงแพลตฟอร์มโซเชียลต่างๆ เช่น Facebook, Twitter หรือ IG และบวกกำไรเพิ่ม หากเราขายสินค้าได้ เราค่อยไปสั่งสินค้าจากคนขายหรือโรงงานให้เขาส่งสินค้าให้ลูกค้าของเราอีกที 

       คนที่เป็นตัวแทนก็สามารถนำภาพ โลโก้และข้อมูลสินค้าไปโพสต์ขายในช่องทางต่างๆ ได้เลย เมื่อมีลูกค้าสั่งออเดอร์เข้ามา ทางตัวแทนก็ติดต่อไปให้ทางซัพพลายเออร์เป็นผู้จัดส่งนั่นเอง ซึ่งจะเห็นว่าการทำงานของระบบนี้ดูค่อนข้างง่าย เพราะความง่ายนี้เอง จึงทำให้ร้านค้าที่มีระบบดรอปชิปมีผู้ที่สนใจเป็นตัวแทนจำหน่ายจำนวนมาก

ข้อดี การขายแบบ Dropship

เผยเทคนิคการทำ Dropship ที่ไม่มีใครบอกคุณ!

1. ไม่ต้องใช้ทุนเยอะ

เนื่องจากธุรกิจรูปแบบนี้นั้น ไม่จำเป็นต้องใช้ต้นทุนเยอะ เพราะคุณเพียงแค่นำสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่คุณสมัครเป็นตัวแทน ไปโพสขายผ่านช่องทางโซเชียลแพลตฟอร์มต่างๆ แล้วค่อยหักส่วนต่างจากที่คุณขาย มาเป็นรายได้ของคุณ

2. เริ่มง่าย สบายใจ

เริ่มได้ง่ายด้วย ไม่ซับซ้อน เนื่องจากการขายแบบดรอปชิป สามารถตัดปัญหาเรื่องการหาโกดังเพื่อเก็บสินค้า การสต๊อกสินค้า การแพ็คของ และการจัดส่งออกไปได้เลย เพราะทางบริษัทที่คุณสมัครเป็นตัวแทนนั้น จะจัดการเรื่องเหล่านี้ให้แทนคุณ ซึ่งในยุคนี้เพียงแค่แม่ค้า – พ่อค้าออนไลน์มีแค่สมาร์ทโฟน หรือ แล็ปทอป ก็สามารถเริ่มต้นได้แล้ว

3. สินค้ามีให้เลือกมากมาย หลากหลายนับไม่ถ้วน

สินค้าอะไรก็ได้ที่คุณสนใจ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าในกระแส หรือนอกกระแสก็ตาม จะตามเทรนด์หรือไม่ตามก็ได้ เนื่องจากมีสินค้ามากมายหลายหมวดหมู่ ขึ้นอยู่กับคุณว่า อยากจะขายและโปรโมทอะไรที่คุณชอบหรือถนัด เพราะไม่ต้องสต๊อกสินค้าอยู่แล้ว ทำให้สามารถเปลี่ยนสินค้าที่ขายได้ตลอด ขึ้นอยู่กับคุณผู้ขายเลย

4. ทำที่ไหนก็ได้ แค่มีอินเทอร์เน็ต

เนื่องจากเพียงแค่มีอินเทอร์เน็ตก็สามารถทำที่ไหนก็ได้ ทำให้การทำธุรกิจแบบดรอปชิปค่อนข้างที่จะสะดวกเป็นอย่างมาก เพราะจะเลือกทำเวลาไหนก็ได้ เหมือนกับพวก Freelance ทำให้ไม่มีใครสามารถมากดดันเราได้ นอกจากตัวเราเอง

ข้อจำกัด การขายแบบ Dropship

เผยเทคนิคการทำ Dropship ที่ไม่มีใครบอกคุณ!

1. การแข่งขันสูง

เนื่องจากใครๆ ก็สามารถเข้ามาทำธุรกิจแบบนี้ได้ ทำให้ถ้าสินค้าแบบเดียวกันแต่ราคาของร้านคุณแพงกว่า ลูกค้าก็สามารถที่จะเลือกไปซื้อกับร้านอื่นได้ และมีการแข่งขันสูงมาก ทั้งราคารวมทั้งการโปรโมท เพราะใครๆ ก็อยากขายได้ ขายดี ทำให้คุณต้องศึกษาคู่แข่งและหาทริคการขายใหม่ๆ มาใช้ตลอดเวลา

2. กำไรค่อนข้างน้อย

ขายแบบดรอปชิปมีการแข่งขันค่อนข้างสูง ใครๆ ก็ทำมาทำดรอปชิปได้ จึงทำให้พ่อแม่ค้าแข่งกันกดราคาเพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาซื้อสินค้าที่ร้านของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะชอบเลือกซื้อสินค้าจากที่ให้ข้อเสนอที่ดี ราคาถูก และร้านที่รู้สึกว่าคุ้มค่ากว่าอยู่แล้ว

3. ไม่รู้จำนวนสต๊อกที่เหลืออยู่

ถ้าเป็นการขายสินค้าออนไลน์แบบปกติทั่วไป แม่ค้าออนไลน์จะจัดการสต๊อกสินค้าเอง จะรู้ว่าสินค้ามีอะไรบ้าง เหลือสินค้าในสต๊อกเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นขายของดรอปชิป แม่ค้าออนไลน์จะไม่สามารถรู้ได้ทันทีว่าสินค้าอยู่ในสต๊อกเท่าไหร่ ทำให้ร้านค้าที่ขายแบบดรอปชิป จะต้องคอยอัปเดตสินค้ากับทางเจ้าของสินค้าหรือซัพพลายเออร์ (Suppliers) และหน้าร้านออนไลน์ของเราอยู่ตลอดเวลา (อ่านเพิ่มเติม > 5 คอนเทนต์ Social Media สุดฮิต ปี 2022)

4. ผู้ผลิตพร้อมมากน้อยเพียงใด

โดยตรวจสอบให้มั่นใจว่าเจ้าของสินค้าสามารถผลิตสินค้าได้เพียงพอหรือไม่ เพราะถ้าหากเราสามารถขายได้ในปริมาณที่เยอะ แต่ทางเจ้าของไม่สามารถผลิตปริมาณได้ตามที่เราต้องการ ก็จะทำให้เราเสียเครดิตในการขายได้

       ก่อนที่คุณจะเริ่มเข้าไปสู่ธุรกิจนี้ ก็ควรจะศึกษาทุกๆ อย่างให้ดี ไม่ว่าจะเป็น การตลาด กลุ่มลูกค้า สินค้าในกระแส คู่แข่ง และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าการวางแผนล่วงหน้าย่อมดีกว่า การไม่วางแผนธุรกิจเลย หวังว่าทุกท่านจะได้รับประโยชน์จากการบทความนี้ ในการดำเนินธุรกิจไม่มากก็น้อย นอกจากธุรกิจแบบดรอปชิปนี้นี้แล้วก็ยังมีธุรกิจอีกมากมายที่น่าทำในยุคปัจจุบันและทาง Boxme ก็ยังมีเทคนิคและวิธีการมากมายที่ทำให้สามารถขายของออนไลน์ได้ดี โดยสามารถติดตามได้ที่บทความต่อไปของ Boxme ได้เลย

       สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านไหนที่กำลังมองหาตัวช่วยจัดการ ธุรกิจ E-commerce หรือร้านค้าออนไลน์ของท่าน คลังสินค้า Boxme Thailand ให้บริการทั้งการจัดเก็บสินค้า พร้อมแพ็คและจัดส่ง ให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณง่ายในการจัดการมากขึ้น และกรณีที่ท่านจัดการเองไม่ไหว ไม่มีเวลามากพอในการทำ และต้องการระบบในการช่วยจัดการปัญหาต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งทางเรามีระบบที่ช่วยบริหารร้านค้าออนไลน์ รวมทั้งระบบจัดการช่องทางการขายช่วยซัพพอร์ต สามารถปรึกษาทางเราได้จากช่องทางการติดต่อข้างล่างได้เลยครับ 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก > Hardcoreceo

สนใจระบบเชื่อมต่อคำสั่งซื้อจากทุกช่องทางในหน้าเดียว

ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง เพื่อขอรับรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 02-026-3165 หรือ > ขอรับใบเสนอราคา < กดที่นี่

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *