คำศัพท์ Marketplace ภาษาอังกฤษที่ต้องรู้ สำหรับการซื้อ-ขายของออนไลน์
ในปัจจุบัน การซื้อ-ขายของในโลกออนไลน์ ไม่ได้มีแค่ใน Social Network เท่านั้น แต่ยังรวมถึง เว็บไซต์ เพื่อการซื้อ-ขาย ออนไลน์ต่างๆ หรือที่เรียกว่า Marketplace ที่มีตัวเลือกและลูกเล่นสำหรับทั้งร้านค้าและลูกค้ามากกว่า Social Network และในตัวของ Marketplace จะมีรายละเอียดที่ยิบย่อยกว่าโซเชียลต่างๆ เพื่อรองรับความปลอดภัยได้มากขึ้น และจะมีคำศัพท์ Marketplace ภาษาอังกฤษแฝงอยู่ตามฟังค์ชั่นต่างๆ SHIPJUNG จึงได้รวบรวม 15 คำศัพท์ Marketplace ที่เจอบ่อย คุณเห็นเป็นประจำบนเว็บไซต์ซื้อ-ขายของออนไลน์
Department
เนื่องจาก Market place คือเว็บไซต์ที่รวบรวมร้านค้าออนไลน์หลายๆร้านมาไว้ในที่เดียวกัน เพื่อให้สะดวกต่อการซื้อของของเหล่านักช็อปออนไลน์ จึงมีคำว่า Department ปรากฏอยู่บนหน้า Market place ซึ่ง Department ในที่นี้หมายถึง หมวดหมู่ หรือประเภทของสินค้า บาง Market Place จะใช้คำว่า Categories ซึ่งมีควาหมายเหมือนกัน เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกสินค้าที่เขาสนใจได้ง่ายขึ้นนั่นเอง ดังนั้น หากไม่อยากเสียเวลาเลื่อนหาของไปเรื่อยๆ คลิกที่คำว่า Department แล้วเลือกหมวดหมู่ที่ต้องการได้เลย
Best seller
ในทุกๆ Market place จะมีสินค้าหลากหลายประเภทและหลากหลายแบรนด์ขาย หากลูกค้าอยากรู้ว่าสินค้าแบรนด์ไหนกำลังมา หรือสินค้าร้านไหนใช้ดี ก็มักจะคลิกเข้าไปที่ Best seller ที่หมายถึงสินค้าขายดี ที่จะถูกจัดอันดับเวียนกันไป ทั้งรายสัปดาห์ หรือรายเดือน เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาชม สามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
New Release
แต่ละวันหรือแต่ละสัปดาห์ จะมีสินค้าเข้าใหม่หรืออัพเดทใหม่ๆอยู่เสมอ สามารถดูได้ใน new release ที่หมายถึง สินค้ามาใหม่ สินค้าเข้าใหม่ และสินค้าอัพเดตใหม่นั่นเอง อยากช็อปแบบไม่พลาดทุกกระแส ต้องคลิกที่ new release ได้เลย
Deal
อีกหนึ่งคำศัพท์สั้นๆที่เตะตากลุ่มลูกค้า ทำให้หูตาลุกวาวกันได้เลยคือคำว่า deal คำนี้ ถ้าแปลตรงตัวอาจจะหมายถึง ข้อตกลง หรือการตกลงกัน แต่สำหรับ โลก market place แล้ว คำว่า deal มีความหมายเป็นนัยๆเหมือนกับคำว่า Promotion มั่นใจได้เลยว่า คลิกเข้าไปดูแล้ว จะได้ซื้อสินค้าในราคาดีๆอย่างแน่นอน
Add to cart
เมื่อคุณคลิกเข้าชมสินค้าที่คุณสนใจ คุณจะเห็นแท็บขนาดเตะตาว่า Add to cart ที่หมายถึง เพิ่มในรถเข็นของคุณ เสมือนช็อปปิ้งอยู่แล้วถูกใจสินค้าชิ้นนี้ ก็หยิบลงรถเข็นของคุณได้เลย หรือ market place บางแห่งก็จะใช้คำว่า add to basket คือหยิบลงตะกร้านั่นเอง
Add to list
คำว่า Add to list จะปรากฏอยู่หน้าเดียวกับ add to cart เพียงแต่แท็บนั้นจะมีขนาดที่เล็กกว่า ในกรณีที่คุณสนใจสินค้าชิ้นนี้แต่ยังไม่ต้องการที่จะซื้อ ณ ตอนนั้น คุณก็สามารถกด add to list สินค้าชิ้นนี้ก็จะเข้าไปอยู่ใน shopping list หรือรายการสิ่งของที่คุณสนใจ ที่ไว้ค่อยกลับมาซื้อตอนต้นเดือนก็ยังได้..
Private message
ร้านค้าบางร้านอาจลงข้อมูลตัวสินค้าไม่ครบถ้วน หรือคุณอาจจะต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าที่คุณสนใจ คุณสามารถคลิกที่ Private message หมายถึง การพูดคุยสอบถามกับร้านค้าแบบส่วนตัว ที่มักจะอยู่บริเวณมุมขวาล่าง บาง Market place ก็จะใช้คำสั้นๆง่ายๆ อย่างคำว่า chat นั่นเอง
Payment
เมื่อคุณตกลงซื้อสินค้าแล้ว ก็ต้องชำระค่าสินค้า คุณจะเห็นคำว่า Payment ในขั้นตอนการชำระเงิน ดังนั้น คำว่า Payment หมายถึง การชำระเงิน นั่นเอง ซึ่ง Market place ก็ได้อำนวยความสะดวกในด้านการชำระเงินให้เหล่านักช็อปปิ้ง โดยมีทั้งการโอนเงินผ่านธนาคาร ชำระผ่านบัตร และเก็บเงินปลายทาง
Credit card
หนึ่งในช่องทางการชำระเงินเมื่อคุณซื้อของออนไลน์ใน Market place คือการจ่ายผ่านบัตรเครดิต หากคุณต้องการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต ก็สามารถคลิกที่ Credit card และเลือกประเภทของบัตรเครดิตของคุณ ว่าเป็นแบบ Visa หรือ Master card และกรอกข้อมูลบัตรเครดิตของคุณให้ครบถ้วน
Debit card
Debit card คือบัตรเดบิต ความแตกต่างของบัตรเดบิตกับบัตรเครดิตคือ บัตรเดบิต คือ บัตรที่เป็นเงินในบัญชีของคุณเอง แต่บัตรเครดิต จะเป็นวงเงินบัตรจากทางธนาคาร ที่คุณต้องชำระในรอบบิลถัดไป แต่ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต หรือ เดบิต ก็ต้องกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนเพื่อทำการชำระเงิน
CVC
เมื่อมีการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตหรือ บัตรเดบิต ข้อมูลจำเป็นที่คุณต้องกรอก ก็คือ CVC โดย CVC ย่อมาจาก Credit Verification Code คือ รหัสสามหลัก หรือสี่หลัก ที่ปรากฏอยู่หลังบัตรของคุณ ที่มีไว้เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน เพราะบางครั้ง หมายเลขหน้าบัตร 16 หลัก อาจจะไม่เพียงพอต่อการยืนยันตัวตน และ CVC สามารถลดอัตราการแอบอ้างการใช้บัตรเครดิตหรือเดบิตได้อีกด้วย
OTP
อีกหนึ่งช่องทางในการยืนยันตัวจนในการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต คือ การกรอกรหัส OTP ที่ย่อมาจาก One Time Password โดยรหัส 6 หลัก จะถูกส่งผ่าน SMS เพื่อใช้ตรวจสอบและยืนยันการเป็นเจ้าของบัญชีก่อนการเข้าถึงบัตรเครดิตของคุณ
Shipping fee
ราคาของสินค้าอาจจะไม่ได้รวมค่าส่งไปด้วย แต่คุณจะได้เห็นค่าใช้จ่ายในการส่ง ในขั้นตอนของการเลือกวิธีการส่ง คุณจะเห็นคำว่า Shipping fee ที่หมายถึง ค่าส่ง ซึ่งแต่ละบริษัทขนส่ง หรือแต่ละรูปแบบการจัดส่ง ก็จะมี shipping fee ที่แตกต่างกันไป คุณในฐานะลูกค้าปลายทาง สามารถเลือกได้ตามใจคุณเลย
Cash on Delivery
ในขั้นตอนการชำระเงิน จะมีบริการเสริมยอดฮิตอย่าง Cash on delivery ปรากฏเป็นหนึ่งในตัวเลือก ซึ่งก็คือบริการเก็บเงินปลายทาง หรือที่รู้จักกันว่า COD โดยการเลือกวิธีการชำระเงินแบบเก็บเงินปลายทางของบางร้าน อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ซึ่งก็คือค่าธรรมเนียมในการเก็บเงินปลายทาง โดยจะอยู่ที่ 2-3 % ของราคาสินค้า
Sign up
ก่อนจะเข้าสู่ระบบเพื่อทำการช็อปปิ้งบน Market place นั้น คุณต้องทำการ sign-up หรือลงทะเบียนเข้าใช้งานก่อน โดยต้องกรอกข้อมูลจำเป็น เช่น ชื่อ หรือที่อยู่ในการจัดส่ง กรอก e-mail และตั้งรหัสเข้าใช้งาน เป็นต้น บางเว็บไซต์อาจจะใช้คำว่า register ที่หมายถึง การลงทะเบียนเข้าใช้งานเช่นเดียวกัน
และทั้งหมดนี้ก็คือ 15 คำศัพท์ภาษาอังกฤษยอดฮิต ที่ทุกคนต้องเจอเมื่อซื้อของออนไลน์ผ่านเว็บ Market place นั่นเอง