แน่นอนว่าปัจจุบัน การที่จะมีแบรนด์บน E-Marketplace นึงเกิดขึ้นมาได้ ต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่กำลังจะเริ่มสร้างแบรนด์สินค้าของตัวเองแล้วไม่รู้ว่าจะเริ่มทำอย่างไรดี Boxme จะมาแนะนำในบทความนี้กันว่าควรจะทำอย่างไรและมีเทคนิคอะไรบ้างที่น่าสนใจในการสร้างแบรนด์ (อ่านเพิ่มเติม > 5 How To เอาชนะคู่แข่งแบรนด์ใหม่ก็ไหว แบรนด์ใหญ่ก็ไม่กลัว)
แบรนด์คืออะไร?
คำว่า “แบรนด์” คือ ความประทับใจโดยรวมของสินค้าและการบริการ แบรนด์เป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้แต่อธิบายได้ ให้ความความรู้สึกและความหมายที่ดี ทำให้ผู้บริโภคยอมจ่ายแพง เพื่อให้ตัวเองได้แบรนด์ที่ตัวเองพึงใจ คำพูดของ Steve Job, CEO Apple แบรนด์ถูกสร้างบนความรู้สึก สินค้าถูกสร้างบนเหตุผล
ตัวอย่างเช่น มาม่าเป็นแบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเจ้าแรกในโลกที่นำวัสดุ Metalized มาใช้กับบรรจุภัณฑ์ของรสต้มยำกุ้ง เพราะผู้บริหารมองว่า นี่คือปัจจัยหนึ่งที่จะสร้างความแตกต่างให้แบรนด์จากสินค้ายี่ห้ออื่นๆ ในท้องตลาด จึงมีการพัฒนาแพ็กเกจจิ้งอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากกระดาษแก้ว ก่อนปรับเปลี่ยนไปตามเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามา ราคาประหยัด หาซื้อได้ง่าย หากจะนึกถึงในแง่ของแบรนด์ ก็คือรู้สึกเกิดความคุ้นเคยในสมัยตั้งแต่เด็กๆ ที่ถ้าอยากหาอะไรกินง่ายๆ ผู้คนส่วนใหญ่ก็จะนึกถึงมาม่า
1. ตั้งคำถามขึ้นว่า อยากทำแบรนด์อะไร
เนื่องจากบนโลกใบนี้ มีแบรนด์สินค้ามากมายและหลากหลายหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์รองเท้า แบรนด์ขนม แบรนด์เสื้อผ้า แบรนด์เครื่องสำอาง หรือแบรนด์รถยนต์ก็ตาม ซึ่งส่วนใหญ่ที่กล่าวมาไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ไหนๆ ก็ต่างใช้เวลาและความพยายามในการหาชื่อและความหมายแบรนด์กันทั้งนั้น ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์รองเท้าชื่อดังอย่าง Nike
โดยชื่อแบรนด์ Nike นั้นเป็นชื่อของเทพเจ้ากรีก ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็น ‘เทพธิดาแห่งชัยชนะ’ โลโก้ Nike ออกแบบ โดย Carolyn Davidson ได้แรงบันดาลใจจากปีกโค้งยาวของเทพแห่งชัยชนะ Nike นั่นเอง เขาเลยนำมาใช้เป็นชื่อและโลโก้ของผลิตภัณฑ์การกีฬาและก็ได้กลายเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก
2. เป้าหมายชัดเจน
ไม่ว่าใครหรือแบรนด์ไหนๆ ต่างก็ต้องการที่จะประสบความสำเร็จกันทั้งนั้น ฉะนั้นเป้าหมายที่ชัดเจนจะทำให้คุณรู้ว่าต้องเดินทางไปไหน และทำอะไรบ้างเพื่อให้แบรนด์ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้บ้าง
- ก่อตั้งมาเพื่ออะไร?
- แตกต่างจากคู่แข่งยังไง?
- ทำไมลูกค้าถึงต้องเลือกแบรนด์ของคุณ?
เมื่อหาคำตอบให้คำถามเหล่านี้ได้แล้ว คุณก็จะมีไอเดียในการสร้างโลโก้ จุดขาย รวมถึงสโลแกนของแบรนด์คุณเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางที่คุณต้องการได้อีกด้วย
3. ศึกษาคู่แข่งอยู่ตลอดเวลา
สิ่งที่ขาดไปไม่ได้และสำคัญเป็นอย่างมากในการทำธุรกิจก็คือ การศึกษาคู่แข่ง อย่างคำกล่าวที่ว่า “รู้เขารู้เรารบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” ไม่ว่าจะเป็นด้านผลิตภัณฑ์ การตลาด ตัวสินค้า และรายละเอียดต่างๆ โดยแนะนำให้เริ่มศึกษาเจ้าใหญ่ๆ ก่อน เนื่องจากมีข้อมูลมากมายให้ศึกษาบนอินเทอร์เน็ตและบน Social Media แล้วนำสิ่งเหล่านั้นมาวิเคราะห์ให่เข้ากับธุรกิจของคุณว่า ขาดเรื่องไหนบ้าง ตัวทำเรื่องอะไรเพิ่มบ้าง หรือจะทำให้ดีกว่านี้อย่างไรได้บ้าง ลูกค้ามีพฤติกรรมอย่างไร ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ฯลฯ ชนิดที่คุณต้องรู้ลึกรู้จริง เพื่อสานต่อเป้าหมายการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก
4. ศึกษากลุ่มเป้าหมาย
พื้นฐานสำคัญของการสร้างแบรนด์ตัวเองก็คือ การรู้จักลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ ทั้งอายุ เพศ การศึกษา รายได้เฉลี่ยของกลุ่มนั้นๆ เพื่อที่จะได้ทำสินค้าและบริการออกมาได้อย่างตรงจุด และรู้ว่าควรจะปรับอะไรเพื่อให้เข้ากับเป้าหมายของแบรนด์บ้าง ยกตัวอย่างเช่น สินค้าแม่และเด็ก ก็ทำการวิเคราะห์ออกมาให้ดี ไม่ว่าจะเป็นรายได้เฉลี่ยของลูกค้ากลุ่มนี้ กลุ่มอายุ และความต้องการของกลุ่มนี้รวมถึงการเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงด้วย (อ่านเพิ่มเติม > User Generated Content (UGC) คืออะไร ทำไมจึงช่วยแบรนด์ทำการตลาดได้แบบสุดปัง?)
5. ศึกษาช่องทางการขายใหม่ๆ อยู่เสมอ
เมื่อมีแบรนด์เป็นของตัวเองแล้วก็จำเป็นต้อง หาช่องการจัดจำหน่าย ซึ่งจะเป็นทางออฟไลน์ หรือออนไลน์ก็แล้วแต่คุณ และแน่นอนว่าแต่ละช่องทางจะมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด ซึ่งในส่วนของช่องทางขายของออนไลน์ก็มีหลายช่องทางที่น่าสนใจมากมาย เช่น
- TikTok
- Shopee
6. สื่อสารเก่งธุรกิจ E-Marketplace เติบโต
การสื่อสารก็นับเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่นักธุรกิจอย่างคุณควรให้ความสำคัญ เพราะศิลปะในการสื่อสารเป็นศาสตร์ที่สามารถฝึกฝนกันได้ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องเป็นคนพูดเก่งมาก่อนก็ได้ เพราะทักษะนี้ก็ฝึกกันได้แบบสบายๆ เมื่อฝึกบ่อยๆ คุณก็จะอธิบายสินค้าได้ดูน่าเชื่อถือและขายสินค้าได้ดียิ่งขึ้น หากช่วงแรกๆ ยังจับทางไม่ได้ก็ให้สังเกตคนที่ทำแบรนด์ขาย จากนั้นก็หาจุดขายตัวเองและฝึกไปเรื่อยๆ แล้วคุณก็จะเก่งแน่นอน
สรุปแล้วทั้ง 6 เทคนิคนี้คือคู่มือที่จะช่วยให้คุณสร้างแบรนด์ตัวเองได้ง่ายๆ จะหยิบจับธุรกิจไหนก็มีโอกาสขายและทำเงินได้มากแน่นอน เพียงแต่คุณต้องจับจุดให้ได้ก่อนว่าอยากมีแบรนด์อะไรเป็นของตัวเอง จากนั้นก็ค่อย ๆ วางแผนและประยุกต์ใช้กันไป อย่างไรก็ตาม ด้วยแนวโน้มของยุคสมัยที่อินเตอร์เน็ตกำลังเข้ามามีอิทธิพลกับชีวิตของมนุษย์ทุกคน ทำให้การซื้อขายบน E-Marketplace ยังคงเติบโตและมีแต่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านไหนที่กำลังมองหาตัวช่วยจัดการ ธุรกิจ E-commerce หรือร้านค้าออนไลน์ของท่าน คลังสินค้า Boxme Thailand ให้บริการทั้งการจัดเก็บสินค้า พร้อมแพ็คและจัดส่ง ให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณง่ายในการจัดการมากขึ้น และกรณีที่ท่านจัดการเองไม่ไหว ไม่มีเวลามากพอในการทำ และต้องการระบบในการช่วยจัดการปัญหาต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งทางเรามีระบบที่ช่วยบริหารร้านค้าออนไลน์ รวมทั้งระบบจัดการช่องทางการขายช่วยซัพพอร์ต สามารถปรึกษาทางเราได้จากช่องทางการติดต่อข้างล่างได้เลยครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก > Stepstraining
สนใจระบบเชื่อมต่อคำสั่งซื้อจากทุกช่องทางในหน้าเดียว
ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง เพื่อขอรับรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 02-026-3165 หรือ > ขอรับใบเสนอราคา < กดที่นี่