4 ขั้นตอนทำ Online Marketing อย่างไรให้โคตรปัง

Share on:

ปัจจุบันนี้เทรนด์ที่กำลังมาแรงคงหนีไม่พ้นการ ขายของออนไลน์ แน่นอน โดยเฉพาะหลังจากผ่านช่วงวิกฤตโควิด-19 จะเห็นได้ว่ามีธุรกิจออนไลน์มากมายเกิดขึ้นมามากยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ทุกที่จะขายของออนไลน์แล้วประสบความสำเร็จ คนที่ทำแล้วไม่ได้ตามที่คาดหวังก็มี Boxme จึงอยากมาแนะนำขั้นตอนการทำ Online Marketing ดีๆเหล่านี้ที่จะช่วยให้การทำธุรกิจออนไลน์ของคุณปังมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

1. วางแผนการตลาด

การวางแผนเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ควรวางแผนก่อนให้ดีในการทำธุรกิจออนไลน์ (อ่านเพิ่มเติม > ‘เปิดความคิดเพิ่มยอดขาย ลูกค้าคิดอะไรก่อนตัดสินใจซื้อ 2022’)

ชื่อร้านหรือแบรนด์

การตั้งชื่อร้านก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ตั้งอย่างไรให้สั้น กระชับ สะดุดตาได้ สิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่คุณสามารถไปศึกษาได้จาก Google, Facebook หรือ Instragram ดูก่อนก็ได้ว่า มีร้านไหนหรือใครตั้งชื่อเพจ ร้านค้า รวมถึงเว็บไซต์นี้แล้วหรือยัง

กลุ่มลูกค้าที่ใช่

หากรู้จักกลุ่มเป้าหมายเนิ่นๆ เราก็จะรู้ว่าจะขายให้ใคร ใครต้องการสินค้าเรา ยกตัวอย่างเช่น

ลูกค้าเป็นใคร : อายุ อาชีพ เพศ
ลูกค้าอยู่ที่ไหน : ภูมิภาค จังหวัด หรือประเทศ
ช่วงนี้เทนด์ไหนมาแรง ลูกค้ากำลังสนใจเรื่องอะไรอยู่

2. ช่องทางโปรโมทสินค้า

เมื่อได้แบรนด์ออกมาเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คงจะหนีไม่พ้นการโปรโมท ว่าจะโปรโมทช่องทางไหน ตัวอย่างเช่น

Social Media

เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะขาดในการโปรโมทไม่ได้เลย เพราะเป็นสิ่งที่สามารถใช้ได้ฟรี และบางฟีเจอร์อาจจะเสียตังเพิ่มในการโปรโมท เนื่องจากยุคนี้เป็นยุคที่โซเชียลมีเดียสำคัญต่อการใช้ชีวิตของทุกคนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อ การแชท การซื้อของ ล้วนผ่านโซเชียลเกือบทั้งหมด โดยก็มีแพลตฟอร์มมากมายให้คุณได้เลือกใช้ทั้ง Facebook, Instragram, Tiktok และอื่นๆ เป็นต้น

Marketplace

Lazada หรือ Shopee เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ให้เราสามารถเข้าไปสร้างโปรไฟล์ร้านค้า และนำสินค้าไปลงขายได้ และเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงมากทั้งราคา โปรโมชั่น ทำให้การเข้าไปใน Marketplace จำเป็นต้องตามคู่แข่งเจ้าใหญ่ๆให้ทัน เพราะการที่จะได้ความไว้ใจจากลูกค้าในช่วงเปิดร้านแรกๆ เป็นสิ่งที่ค่อนข้างยาก แต่ถ้าทำได้แล้วลูกค้าก็จะมาใช้บริการต่อเรื่อยๆ

3. ช่องทางการชำระเงิน

ช่องทางการรับชำระเงินออนไลน์ เป็นสิ่งสำคัญที่ร้านค้าออนไลน์จะขาดไปไม่ได้เลย ร้านค้าออนไลน์หลายแบรนด์อาจเริ่มต้นจากการจากใช้บัญชีธนาคารในการรับเงิน แต่ถ้าจะให้ดี หากร้านค้าสามารถรับชำระเงินออนไลน์ด้วยบัตรเครดิตได้ หรือสแกน QR Code ได้เพื่อความสะดวกในการจ่ายเงินของลูกค้าและอาจทำให้ร้านของคุณจะมีโอกาสปิดการขายเพิ่มขึ้นอีก (อ่านเพิ่มเติม > เคล็ดลับการขายออนไลน์ วิธีหาลูกค้าใหม่แบบได้ผลจริง)

4. วัดผลลัพธ์ Online Marketing อย่างสม่ำเสมอ

การวัดผลลัพธ์นับเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ เพราะจะทำให้รู้เป้าหมายในแต่ละปี หรือแต่ละเดือน ว่ารอบบิลนี้มีการเติบโตของยอดขายมากขึ้นหรือน้อยลงแค่ไหน ตัวอย่างเช่น

เป้าหมายคือ มีคนเข้ามาดูเว็บไซต์ 300 คนต่อเดือน
ผลลัพธ์คือ เดือนทีแล้วมีคนเข้ามาดู 20 คน
แนวทางการปรับปรุง ลองเขียนคอนเทนต์ที่น่าสนใจ โดยใช้ Keyword ที่มีปริมาณการค้นหา หรือ โฟกัสที่การทำ SEO ให้มากขึ้น

การวัดผลลัพธ์นั้นช่วยให้เรารู้ว่าจุดบ้างไหนที่เราควรปรับปรุง เพื่อที่จะทำให้เราไปถึงเป้าหมายนั้นให้ได้ แต่หากผลลัพธ์ที่คุณได้ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ สิ่งที่คุณต้องทำต่อไปก็คือ ตั้งเป้าหมายให้ให้สูงขึ้น เพื่อความก้าวหน้าและเติบโตมากยิ่งขึ้นในธุรกิจของคุณ

4 ขั้นตอนเหล่านี้ที่ Boxme ได้มาเล่าให้ฟังหวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองได้ไม่มากก็น้อย และยังมีเทคนิคอีกมากมายที่สามารถเพิ่มยอดขายให้ปังได้ และถ้าคุณเจอปัญหาพื้นที่เก็บสินค้าไม่เพียงพอ หรืออยากขยายที่เก็บสินค้าเพิ่มมากขึ้นสามารถปรึกษากับทางเราได้ตามช่องทางการติดต่อข้างล่างได้เลยครับ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก > adaddictth