เนื่องด้วยสถาการณ์ Covid-19 ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นอย่างมาก ทั้งด้านผู้บริโภคที่ไม่สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ตามปกติจากการเว้นระยะห่าง และผู้ประกอบการที่ไม่สามารถจำหน่ายสินค้าแบบออฟไลน์ได้อย่างเต็มที่ ทำให้สถานการณ์นี้ส่งผลกระทบอย่างมากกับวิถีชีวิตของทุกคน ในขณะที่รัฐบาลมีมาตราการ Work From Home ผู้ประกอบการสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส โดยการหันมาขายของออนไลน์ในช่วง Covid-19 ได้อย่างไรบ้างนั้นไปดูกันเลย…
ทางออกวิกฤตมีทางเดียว คือ 'ขายของออนไลน์'
ขณะที่หลายธุรกิจต้องปิดกิจการชั่วคราว ส่งผลให้หลายคนต้องหยุดงานแบบไม่รับเงินเดือน และส่วนหนึ่งกลายเป็นคนว่างงานเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังทยอยให้ความช่วยเหลือผ่านมาตรการต่าง ๆ เช่น มาตรการเยียวยา 5,000 บาทเป็นระยะเวลา 3 เดือน มาตรการช่วยเหลือผู้ประกันตนว่างงานเหตุสุดวิสัยจากโควิด-19 เป็นร้อยละ 62 ของค่าจ้างเป็นเวลา 90 วัน ฯลฯ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: www.etda.or.th
แพลตฟอร์มออนไลน์กำลังเติบโต
จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ สำนักงาน กสทช. ที่เปรียบเทียบการใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์ของคนไทย ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2563 พบว่า แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ มียอดการเข้าใช้บริการเพิ่มขึ้น เช่น Shopee เพิ่มขึ้นกว่า 478.6% และ Lazada เพิ่ม 121.5% สะท้อนให้เห็นว่า คนไทยใช้เวลาบนโลกออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้การขายของออนไลน์สามารถทำได้ง่ายขึ้น เพราะกลุ่มลูกค้ามารวมกันอยู่บนโลกออนไลน์แล้ว
การขายของออนไลน์ในช่วงวิกฤต Covid-19
การขายสินค้าออนไลน์ในช่วงวิกฤต Covid-19 ยังมียอดขายที่ดีกว่าการขายสินค้าผ่านช่องทางออฟไลน์ เพราะการขายสินค้าบนออนไลน์ ไม่ต้องมีหน้าร้าน ไม่ต้องจ่ายค่าเช่า ซื้อขายได้ 24 ชั่วโมง เวลามีความยืดหยุ่นทั้งกับผู้ซื้อ ผู้ขาย และยังสามารถเลือกช่องทางการขาย ทำการตลาด โฆษณาหากลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างเฉพาะเจาะจง
ข้อจำกัดของการขายออฟไลน์
ต้องมีหน้าร้าน ต้องจ่ายค่าเช่า ต้องเปิดปิดตามเวลา แล้วช่วงวิกฤตเช่นนี้ ลูกค้าลดลง ส่วนสถานประกอบการ ห้าง ร้านต้องปิดกิจการชั่วคราว ส่งผลให้ผู้ประกอบการ ขณะที่รายย่อยขาดทุนหนัก เพราะขายของไม่ได้ ทำให้รายได้ไม่พอรายจ่าย โดยเฉพาะต้นทุนที่ต้องแบกรับในแต่ละวัน เป็นต้น
เพิ่มพลังช่องทางออนไลน์ ขยายสู่ Omni-channel
ปัจจุบัน แทบจะทุกร้านค้าออนไลน์ “ไม่ได้ขายเพียงช่องทางเดียว” ร้านค้าต่าง ๆ มีการวางขายในหลายแพลตฟอร์ม หลายเว็บไซต์ แม้แต่การกระจายร้านค้าในแพลตฟอร์มเดียวกัน โดยให้ลูกค้าได้มีโอกาสเลือกซื้อสินค้าได้อย่างหลากหลาย และทำให้มีโอกาสที่ผู้บริโภคจะเข้าถึงร้านค้าของเรามากยิ่งขึ้น จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้การขายของออนไลน์ไม่ควรมีเพียงช่องทางการขายเดียว แต่ควรขยายให้มีการเติบโตอยู่ในหลาย ๆ แพลตฟอร์ม E-Commerce และ Marketplace
ระบบ Omisell จาก Boxme Thailand เป็นระบบจัดการสินค้าหลังบ้านที่เหมาะสำหรับร้านค้าที่มีช่องทางการขายผ่านหลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada, Shopify หรือเว็บไซต์ส่วนตัว โดยตัวระบบ Omisell สามารถจัดการออเดอร์จากทุกช่องทางขายและสต๊อกทั้งหมดได้ในหน้าเดียว ด้วยการเชื่อมต่อแพลตฟอร์มการขายกับระบบคลังสินค้าของ Boxme ให้สามารถซิงค์ถึงกันได้ เมื่อมีคำสั่งซื้อเข้ามาจากแพลตฟอร์มที่มีการขาย คำสั่งซื้อนั้นจะถูกส่งเข้ามารวมในหน้าจัดการของ Omisell เพื่อให้ผู้ขายสามารถมองเห็นและจัดการคำสั่งซื้อจากช่องทางต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย เป็นระบบระเบียบ และแม่นยำ ลดเวลาการดูแลออเดอร์จำนวนมากที่วุ่นวาย สามารถดึงข้อมูลจากแพลตฟอร์มได้อย่างถูกต้อง 100% (อ่านเพิ่มเติม > จัดการออเดอร์จากทุกช่องทางการขายในหน้าเดียวด้วย Omisell)
ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง เพื่อขอรับรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 02-026-3165 หรือ > ขอรับใบเสนอราคา < กดที่นี่
> อ่านเพิ่มเติม : เปิดตัวระบบใหม่! ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชันการขายสินค้าออนไลน์
> อ่านเพิ่มเติม : 5 แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ ซื้อขายง่าย ยอดขายพุ่ง
> อ่านเพิ่มเติม : 7 เรื่องต้องรู้ก่อนเปิดเว็บไซต์ขายของออนไลน์