Data Driven Marketing เป็นศัพท์ที่ได้ยินบ่อย ๆ ในช่วงนี้ตั้งแต่ปี 2020 หลังเกิดวิกฤตการณ์ Covid – 19 ซึ่งเป็นเครื่องมือที่หลายธุรกิจเห็นถึงความสำคัญและเลือกใช้ให้เข้ามาช่วยปรับปรุงสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้เติบโตขึ้นได้อีก

Data-Driven Marketing

Data Driven Marketing คืออะไร?

Data Driven Marketing หรือ การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เป็นกระบวนการที่นักการตลาดใช้ข้อมูลที่บันทึกจากหลากหลายแหล่ง ทั้งข้อมูลที่ได้มาจากการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าโดยตรง หรือผ่านแพลทฟอร์มอื่น ๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์เพื่อให้ได้มาซึ่งมุมมองที่ช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภค การมีส่วนร่วม ความชอบ และแรงจูงใจในการตัดสินใจซื้อของลูกค้าในเชิงลึกมากยิ่งขึ้น และอาจรวมถึงการทำนายพฤติกรรมในอนาคตอีกด้วย

Data Driven Marketing Tools

หลายคนอาจจะคิดว่า การทำ Data driven Marketing เป็นเพียงการนำเครื่องมือต่าง ๆ เข้ามาใช้ แต่จริง ๆ แล้วหากขาดความเข้าใจและจุดมุ่งหมายของการใช้เครื่องมือ ก็อาจเป็นแค่การเปลี่ยนรูปแบบการทำงานเท่านั้น สิ่งสำคัญคือการนำเครื่องมือมาใช้อย่างตรงจุด รู้และเข้าใจว่า Pain Point คือจุดไหน และเทคโนโลยีนั้น ๆ จะเข้ามาแก้ปัญหาได้อย่างไร และทั้งหมดนี้ จะเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับการทำ Marketing รูปแบบใหม่ให้มีประสิทธิภาพและสามารถไปถึงเป้าหมายได้อย่างที่แบรนด์ตั้งเป้าไว้

ข้อดีของ DATA-DRIVEN MARKETING

Data-Driven Marketing
  1. รู้ Insight ลูกค้าในแต่ละกลุ่มได้มากยิ่งขึ้น
  2. พัฒนาสินค้าได้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น
  3. วางกลยุทธ์ได้แม่นยำขึ้น

Omnichannel Marketing

Omnichannel Marketing

หากได้ลองมองดูแนวโน้มการตลาดในปีที่ผ่าน ๆ มา อาจเจอคำว่า “Omnichannel Marketing” บ่อย ๆ แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะสับสนระหว่างคำนี้กับ multi-channel Marketing แต่ทั้งสองก็มีความหมายที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

การตลาดแบบ Omnichannel นั้นเกี่ยวกับการดูแลผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าในช่องทางต่าง ๆ ไปสู่กระบวนการซื้อ เกี่ยวกับ customer journey ขั้นตอนต่างๆของกระบวนการซื้อ และอื่น ๆ และด้วยเหตุนี้ทุก ๆ ธุรกิจจึงต้องมีการปรับปรุงและพัฒนาแพลตฟอร์มให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าในยุคนั้นขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ต้องไปพึ่งพาแพลตฟอร์มอื่นเพียงอย่างเดียว 

สำหรับบทความนี้หวังว่าผู้อ่านจะรู้จัก Data Driven Marketing กันมากขึ้น ซึ่งการทำการตลาดในลักษณะนี้ สำหรับธุรกิจ E-commerce อาจจำเป็นต้องมี Dashboard และเครื่องมือการทำงานที่แม่นยำ รวมถึง ระบบการจัดการสต๊อกร้านค้า แบบ Omni-Channel เพื่อให้จัดการออเดอร์ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ซึ่ง Boxme Fulfilment พร้อมให้บริการด้วยเครื่องมือระบบคลังสินค้าที่แม่นยำเพื่อลดความผิดพลาดระหว่างการแพ็ค ด้วยระบบ WMS ที่ช่วยสนับสนุนการขายได้สะดวกยิ่งกว่า ทำงานที่ไหนก็ได้ แถมยังมีเวลาไปทำการตลาดต่อยอดธุรกิจของคุณให้โตขึ้นได้อีกด้วย

ที่มา : th.heroleads.asia

ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง เพื่อขอรับรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 02-026-3165 หรือ > ขอรับใบเสนอราคา < กดที่นี่

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *