4 วิธี จัดการสต็อกสินค้า E-commerce ให้ง่ายและมีประสิทธิภาพ

Share on:

จัดการสต็อกสินค้า E-commerce

แม้ว่าจะจัดการทุกอย่างได้ภายในพื้นที่บ้านตัวเอง แต่ร้านค้า E-commerce ในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้านี้ ก็คงจะสามารถรับมือกับคำสั่งซื้อจำนวนหลักสิบได้สบาย ๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วงพีคของการขาย เช่น ในช่วงเทศกาลต่าง ๆ ออเดอร์ที่เพิ่มมากขึ้น กลายเป็นความท้าทายสำหรับร้านค้าที่จะรองรับความต้องการของลูกค้า ทั้งคุณภาพของสินค้า การตอบคำถามที่ชัดเจนครอบคลุม และการจัดส่งที่รวดเร็ว ในช่วงปี 2019-2020 นี้ จึงเกิดธุรกิจคลังสินค้าครบวงจรที่สามารถช่วยเหลือและสนับสนุนร้านค้าเหล่านี้ ให้สามารถบริหารจัดการเวลาสำหรับการขายได้ โดยมอบบริการด้านโลจิสติกส์อย่างครบวงจร

อย่างไรก็ตาม นี่คือวิธีการอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้การบริหารร้านค้าของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การจัดการสต็อกอย่างมีประสิทธิภาพ

มีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสต็อก หากคุณสามารถจัดการให้ขั้นตอนทุกอย่างดำเนินแบบอัตโนมัติได้มากที่สุด จะทำให้คุณสามารถเพิ่มความเร็วและคุณภาพการทำงานได้อย่างมาก ซึ่งสามารถปรับปรุงประสบการณ์การซื้อของลูกค้าได้เช่นกัน สิ่งนี้ทำให้อัตราการรักษาลูกค้าเก่าและอัตราการซื้อซ้ำสูงขึ้น และทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีของร้านค้าอีกด้วย

ก่อนการเลือกใช้บริการใดก็ตาม Boxme แนะนำให้ประเมินสถานการณ์ในปัจจุบันก่อนว่าร้านค้าของคุณควรมีการปรับปรุงในขั้นตอนไหนบ้าง

  • ซอฟแวร์ แอปพลิเคชั่น หรือเครื่องมือของคุณ สามารถซัพพอร์ตและช่วยให้คุณสะดวกมากขึ้นในการขาย การจัดการสต็อก ไปจนถึงการขนส่งและการบริการลูกค้าได้หรือไม่
  • การจัดการสต็อกของคุณได้ถูกจัดการอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการทำงานแบบอัตโนมัติแล้วหรือยัง
  • ระบบหรือขั้นตอนการจัดการธุรกิจที่มีอยู่สามารถรองรับการขยายธุรกิจของคุณได้หรือไม่

เลือกใช้บริการ 3PL (third-party logistics)

3PL หรือ third-party logistics เป็นบุคคลที่สามที่เป็นผู้ให้บริการด้านการกระจายสินค้ารวมถึงการดำเนินการต่าง ๆ ในทางโลจิสติกส์ เนื่องจากบริษัท 3PL เหล่านี้เป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมดังกล่าว จึงสามารถปรับขนาดและปรับแต่งการบริการให้เหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจได้

การใช้บริการ outsource เหล่านี้ จะทำให้คุณได้เปรียบด้านความเร็วและค่าใช้จ่ายที่คุ้มกว่า แต่แน่นอนว่า การใช้วิธีการนี้ คุณจะไม่สามารถควบคุมขั้นตอนการทำโลจิสติกส์ทั้งหมดด้วยตัวเองได้ ดังนั้นควรค้นคว้าอย่างรอบคอบก่อนเลือกใช้ผู้ให้บริการ 3PL บริการที่บริษัท 3PL ส่วนใหญ่ให้แก่ธุรกิจ มีดังนี้

  • คลังสินค้าและการกระจายสินค้า
  • การขนส่ง
  • การเงินและข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ
  • บริการอื่น ๆ ที่ครอบคลุมกระบวนการโลจิสติกส์

หากต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการขายในตลาดใหม่ การเลือกใช้บริการ 3PL คือวิธีที่เหมาะสม และควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าโซลูชั่นของพวกเขา เข้ากันได้ดีกับบริษัทหรือร้านค้าของคุณ ปัจจัยที่ควรพิจารณา เช่น

  • คุณต้องการใช้บริการบริษัท 3PL ในประเทศหรือบริษัทที่สามารถให้บริการได้ในต่างประเทศ
  • คุณต้องการใช้บริการเพื่อครอบคลุมขั้นตอนทั้งหมด หรือเพียงบางส่วน
  • ค่าใช้จ่ายสำหรับ 3PL เหมาะสมกับอัตรากำไรของคุณหรือไม่
  • ระบบการทำงานและเครื่องมือซอฟแวร์ของ 3PL สามารถเข้ากันได้กับระบบของคุณหรือไม่
  • 3PL สามารถปรับขนาดการบริการให้ตรงกับความต้องการและการเติบโตของธุรกิจคุณหรือไม่
  • 3PL นั้น มีประสบการณ์และเชื่อถือได้หรือไม่

รู้จักปรับตัวตามกระแสตลาด

ด้วยอัตราการใช้จ่ายของ E-commerce เพิ่มสูงขึ้น ร้านค้าออฟไลน์จึงจำเป็นต้องหาวิธีปรับตัวเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียลูกค้า นี่คือเหตุผลที่ในปัจจุบัน ร้านค้าต่าง ๆ และห้างสรรพสินค้ามีการเปิดให้บริการสั่งซื้อทางออนไลน์มากขึ้น หลังจากทำการสั่งซื้อแล้ว ลูกค้าก็จะสามารถเลือกสถานที่รับสินค้าได้ หากร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้ามีศูนย์กระจายสินค้าอยู่หลายจุดในพื้นที่ จะช่วยให้การจัดส่งสินค้าทำได้รวดเร็วและเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น

เลือกใช้บริการ Micro-Fulfillment Centers (MFCs)

การมีคลังสินค้าของตัวเองเพื่อให้มีการจัดการสต็อกและโลจิสติกส์ที่ดีนั้น ต้องใช้เงินลงทุนอย่างมาก ดังนั้นจึงมีวิธีที่บริษัทหรือแบรนด์ต่าง ๆ ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจโดยใช้เงินลงทุนน้อยกว่าคือ Micro-Fulfillment Centers (MFCs) การใช้บริการคลังสินค้าแบบนี้เป็นการเลือกใช้บริการของคลังสินค้าเพียงส่วนหนึ่ง โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนสร้างระบบและคลังสินค้าเองทั้งหมด การใช้บริการแบบนี้ เหมาะกับการขายในพื้นที่ที่มีความต้องการซื้อออนไลน์สูง การมีสต็อกอยู่ใกล้ ๆ จะสามารถลดเวลาและค่าใช้จ่ายการจัดส่งได้มาก

Boxme เป็นผู้ให้บริการคลังสินค้าและช่วยเหลือในขั้นตอน Logistics ทุกกระบวนการ ตั้งแต่การเก็บสต๊อกสินค้าสำหรับส่งให้ลูกค้าต่างประเทศ การแพ็ค ไปจนถึงการจัดส่ง รวมถึงบริการให้คำปรึกษาสำหรับผู้ประกอบการที่สนใจจะขยายขนาดของธุรกิจ E-commerce ไปขายยังตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้โดยประหยัดต้นทุนการจัดการสินค้าและระยะเวลาการจัดส่งที่น้อยกว่า เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจสามารถมอบความพึงพอใจต่อผู้รับปลายทางได้อย่างดีที่สุด

ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง เพื่อขอรับรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 02-026-3165 หรือ > ขอรับใบเสนอราคา < กดที่นี่

Don't forget to share this post!

Share on:

Facebook
LinkedIn
Twitter
Telegram

Share on:

Expand your Business to Southeast Asia​