ในตอนนี้การใช้ Omnichannel สำหรับธุรกิจร้านค้าเป็นเรื่องที่จำเป็นต่อการเพิ่มยอดขาย ในการสร้างกลยุทธ์ดังกล่าวเป็นปัจจัยสำคัญในการที่จะมอบความประทับใจแก่ลูกค้า ธุรกิจร้านค้าออนไลน์ควรต้องมีการใช้กลยุทธ์นี้ เพื่อเป็นช่องทางที่จะรองรับลูกค้า เพราะท้ายที่สุดแล้ว การใช้กลยุทธ์ดังกล่าวจะส่งผลให้ลูกค้าเลือกใช้บริการของร้านค้า และทำให้รายได้ของร้านค้าเพิ่มขึ้น
มีแนวโน้มพัฒนาช้า
![กลยุทธ์ Omnichannel](https://blog.boxme.asia/th/wp-content/uploads/sites/3/2023/01/3652420-1024x683.jpg)
ธุรกิจต่างๆ มักจะใช้ Omnichannel แต่เป็นการพัฒนาแบบดั้งเดิม โดยใช้การบูรณาการแบบจุดต่อจุด ซึ่งหมายความว่าทุกระบบต้องเชื่อมต่อกับอีกระบบหนึ่งแบบ 1:1 แพลตฟอร์ม ด้วยเหตุนี้ ทุกๆ ช่องทางใหม่ที่เพิ่มเข้ามา ต้องเขียนโค้ดใหม่แบบจุดต่อจุดครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อเชื่อมต่อกับระบบเหล่านี้และเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง การดำเนินการในขั้นนี้ใช้เวลานาน และด้วยเหตุนี้ เวลาส่วนใหญ่ของทีมจึงหมดไปกับการทำขั้นตอนนี้ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อความสามารถในสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ออกสู่ตลาด
กระบวนการรวมข้อมูลที่มีความยากลำบากขึ้น
![กลยุทธ์ Omnichannel](https://blog.boxme.asia/th/wp-content/uploads/sites/3/2023/01/17828-1024x614.jpg)
Omnichannel ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการนำระบบจำนวนมากมารวมกัน ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบข้อมูลที่แตกต่างกัน บ่อยครั้งที่ระบบเหล่านี้และข้อมูลพื้นฐานของลูกค้าจะถูกแยกออกจากกัน ด้วยเหตุนี้ เมื่อองค์กรนำช่องทางใหม่ๆ มาใช้ในการมีส่วนร่วม ตั้งแต่มือถือและแท็บเล็ตไปจนถึงคีออสก์และเซ็นเซอร์ การจัดการและควบคุมข้อมูลทั้งหมดที่ไหลเวียนภายในและระหว่างระบบเหล่านี้จึงเป็นเรื่องยาก
การมองเห็นของสินค้าไม่เพียงพอในช่องทางที่หลากหลาย
![กลยุทธ์ Omnichannel](https://blog.boxme.asia/th/wp-content/uploads/sites/3/2023/01/6671-1024x683.jpg)
ความท้าทายอีกอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในกระบวนการสร้าง Omnichannel คือไม่มีช่องทางเดียวที่ทีมสามารถไปเพิ่มการมองเห็นพร้อมกับควบคุมระบบและข้อมูลได้ดีขึ้น สิ่งที่ยากคือ ไม่เพียงแต่ทำกระบวนการรวมข้อมูลให้เร็วขึ้นเท่านั้น แต่ยังสร้างปัญหาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลลูกค้าอีกด้วย เพราะทำให้ทีมเข้าใจได้ยากขึ้นเกี่ยวกับข้อมูลแต่ละส่วน เช่น ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลธุรกรรม ฯลฯ
เพื่อเอาชนะความท้าทายข้างต้นและสร้าง Omnichannel ที่ดีขึ้น ธุรกิจจำนวนมากกำลังเปลี่ยนจากวิธีการแบบเดิม เช่น เลิกการใช้การผสานรวมแบบจุดต่อจุด และหันไปใช้ API แทน เมื่อใช้ APIs ธุรกิจต่างๆ จะสามารถนำเสนอการเดินทางส่วนบุคคลผ่านช่องทางต่างๆ ได้เร็วขึ้น ขยายและปรับขนาดอย่างสม่ำเสมอด้วย และในทางกลับกัน ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทได้ด้วย
จัดการความท้าทายในการใช้กลยุทธ์ Omnichannel ยังไง?
![กลยุทธ์ Omnichannel](https://blog.boxme.asia/th/wp-content/uploads/sites/3/2023/01/Omisell-Home-แรก-1024x591.png)
ความท้าทายของการใช้กลยุทธ์ Omnichannel จะสามารถจัดการได้ง่ายขึ้น ผ่านช่องทาง Omnichannel Platform ของเรา เพราะทาง Boxme มีแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า Omisell เป็นบริการที่ใช้ กลยุทธ์การตลาด แบบ Omnichannel โดยระบบ Omisell จาก Boxme Fulfillment เป็นระบบจัดการหลังบ้านที่เหมาะสำหรับร้านค้าที่มีช่องทางการขายผ่านหลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada, Shopify หรือเว็บไซต์ส่วนตัว โดยตัวระบบ Omisell สามารถจัดการออเดอร์จากทุกช่องทางขายและสต๊อกทั้งหมดได้ในหน้าเดียว ด้วยการเชื่อมต่อแพลตฟอร์มการขายกับระบบคลังสินค้าของ Boxme ให้สามารถซิงค์ถึงกันได้ เมื่อมีคำสั่งซื้อเข้ามาจากแพลตฟอร์มที่มีการขาย คำสั่งซื้อนั้นจะถูกส่งเข้ามารวมในหน้าจัดการของ Omisell เพื่อให้ผู้ขายสามารถมองเห็นและจัดการคำสั่งซื้อจากช่องทางต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย เป็นระบบระเบียบ และแม่นยำ ลดเวลาการดูแลออเดอร์จำนวนมากที่วุ่นวาย สามารถดึงข้อมูลจากแพลตฟอร์มได้อย่างถูกต้อง 100% (อ่านเพิ่มเติม > จัดการออเดอร์จากทุกช่องทางการขายในหน้าเดียวด้วย Omisell)
เชื่อมต่อคำสั่งซื้อจากทุกช่องทางในระบบเดียว
ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง เพื่อขอรับรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 02-026-3165 หรือ > ขอรับใบเสนอราคา < กดที่นี่